ศาลปล่อยตัวชั่วคราว อดีตพระพรหมดิลก อดีตเลขาฯ วัดสามพระยา คดีฟอกเงินทุจริตเงินทอนวัด ระหว่างอุทธรณ์คดี หลังยื่นหลักทรัพย์คนละ 2 ล้าน รายงานตัวทุก 1 เดือน ห้ามออกนอกประเทศ

อดีตพระพรหมดิลก / เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขแดงที่ อท. 122/2562 มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี)” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และนายสมทรง อรรถกฤษณ์ “อดีตพระอรรถกิจโสภณ” อดีตเลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา ระหว่างอุทธรณ์คดี

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีการสืบพยานจนเสร็จสิ้นแล้วจำเลยทั้ง 2 ให้การปฏิเสธตลอดมาทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณากรณีไม่น่าที่จำเลยทั้ง 2 จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 เป็นพระภิกษุอยู่ในพระธรรมวินัย

อีกทั้งยังไม่ปรากฏพฤติการณ์อื่นใดที่ส่อว่าจำเลยทั้ง 2 จะหลบหนีประกอบกับหลักประกันที่จำเลยทั้ง 2 เสนอมาเป็นเงินสด ซึ่งน่าเชื่อถือ จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 2 ระหว่างอุทธรณ์ และโดยที่คดีนี้มีค่าความเสียหายจำนวนมาก จึงให้ตีราคาหลักประกันคนละ 2 ล้านบาท ห้ามจำเลยทั้ง 2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็วก่อนปล่อยตัวจำเลยทั้ง 2 โดยกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยทั้ง 2 มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 1 เดือนต่อครั้ง ตามวันเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไปจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและหลักประกันเพิ่มแล้วดำเนินการต่อไป

อนึ่งหากมีพฤติการณ์ว่าจำเลยทั้ง 2 จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือข่มขู่พยาน หรือมีพฤติการณ์อันใดอันอาจทำให้เสียหาย หรือเกิดความไม่เป็นธรรมในรูปคดี ก็ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งถอนประกันตัวจำเลยทั้ง 2 ทันที

สำหรับคดีนี้พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ฟ้องอดีตเจ้าอาวาส) และเป็นผู้สนับสนันเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีพฤติกรรม โอน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน และการกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิด หรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง อันเป็นการฟอกเงิน

จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินพุทธศักราช 2542 มาตรา 5 (1) (2) และมาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานฟอกเงินต้องรับโทษเป็น 2 เท่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นความผิดหลายกรรมให้เรียงกระทงลงโทษ ลงโทษความผิดฐานฟอกเงินจำคุกจำเลยที่ 1 รวม 2 กระทง ลงโทษกระทงละ 3 ปี รวมจำคุกเป็นเวลา 6 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 รวม 2 กระทง กระทงละ 1 ปี 6 เดือนรวมจำคุก 3 ปี

นอกจากคดีนี้แล้ว ศาลยังได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อท.254/2562 ที่อนุญาตให้ประกันตัวพระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) ในคดีที่ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องร่วมกับนายพนม ศรศิลป์ และพวกรวม 5 คนร่วมกันทุจริตเงินทอนวัดอีก 1 สำนวน

โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วจำเลยที่ 5 ให้การปฏิเสธตลอดมา ทั้งในระหว่างสอบสวนและชั้นพิจารณา กรณีไม่น่าที่จำเลยที่ 5 จะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 5 เป็นพระภิกษุอยู่ในพระธรรมวินัย

อีกทั้งยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ใดที่ส่อว่าจำเลยที่ 5 จะหลบหนี ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 5 ชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และโดยที่คดีนี้มีมูลค่าราคาความเสียหายจำนวนมาก จึงให้ตีราคาหลักประกัน 2 ล้านบาท ห้ามจำเลยที่ 5 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น

ให้ศาลชั้นต้นแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็วก่อนปล่อยตัวจำเลยที่ 5 โดยกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยที่ 5 มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 1 เดือนต่อครั้ง ตามวันเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป

อนึ่งหากมีพฤติการณ์ว่าจำเลยที่ 5 จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือข่มขู่พยานหรือมีพฤติการณ์อันใดอันอาจทำให้เสียหายหรือเกิดความไม่เป็นธรรมในรูปคดีก็ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งถอนประกันตัวจำเลยที่ 5 ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน