ชาวบ้านบ่อแก้ว ลุกขึ้นสู้ ทวงคืนสวนป่าล้านไร่ ชี้นโยบายรัฐบาล ทำคนจนเดือดร้อน

วันที่ 27 ส.ค. ที่หมู่บ้านบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาที่ดินกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้านและไกล่เกลี่ยให้ยืดเวลาการบังคับคดีชาวบ้านออกไปอีก 30 วัน หลังองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป. ที่ปลูกสร้างสวนป่าทับที่ทำกิน และจะไล่รื้อออกจากพื้นที่ในวันนี้

อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังมีความกังวลเนื่องจากยังไม่มีหนังสือออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงปักหลักเฝ้าระวังการเข้าไล่รื้อของเจ้าหน้าออกเป็น 3 จุด โดยมีจุดหลักอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านมีจำนวนชาวบ้านกว่า 30 คน คอยเฝ้าระวังสถานการณ์ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.คอนสารและเจ้าหน้าที่สันติบาลมาสังเกตการณ์

ในช่วงเช้าชาวบ้านได้เดินรณรงค์ถือป้ายข้อความต่อต้านการเข้าไล่รื้อของอ.อ.ป. รอบหมู่บ้าน พร้อมทั้งจัดเวทีสาธารณะเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาของชาวบ้านเครือข่ายในหลายพื้นที่ที่ได้รับความเดือนร้อนจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้มีพรรคการเมือง เดินทางเข้ามาให้กำลังใจและสังเกตการณ์เหตุการณ์ร่วมกับชาวบ้าน ประกอบด้วยพรรคสามัญชน และพรรคอนาคตใหม่

นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า กรณีนโยบายทวงคืนผืนป่าของภาครัฐพิสูจน์ชัดว่าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะการรื้อไล่ที่ ล่าสุดทางพรรคฝ่ายค้านได้เสนอต่อสภาให้ตั้งกรรมาธิการศึกษานโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล ซึ่งรัฐสภาก็ได้มีการบรรจุวาระนี้ไว้ในลำดับที่ 14 แล้ว เมื่อผ่านวาระพิจารณาก็จะมีการตั้งกรรมาธิการโดยจะเชิญตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาร่วมนั่งเป็นกรรมาธิการด้วย

ขณะที่ นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องปัญหาที่ดินทิ้งร้างของเอกชนที่ไม่ได้ทำประโยชน์เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการแย่งยึดที่ดินทำกินของชาวบ้าน คนรวยที่กักตุนเป็นล้านๆไร่เป็นการแย่งยึดที่ดินทำกินของประชาชนเพื่อหวังเอาไปขายในภายภาคหน้า สิ่งที่คนรวยเหล่านี้ทำเป็นการแย่งยึดที่ดินทำกินของเราทั้งหมด เป็นการสะสมความมั่งคั่งและเป็นเนื้อร้ายของแผ่นดินที่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำและส่งผลให้การพัฒนาที่ยั่งยืนตามประกาศของสหประชาชาติไม่สำเร็จ ซึ่งพรรคสามัญชนก็ยืดหยัดพร้อมที่จะสู้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

จากนั้นชาวบ้านบ่อแก้ว ร่วมอ่านแถลงการณ์โดยในแถลงการณ์ระบุว่า 1.เราจะร่วมกันปกป้องชุมชนบ่อแก้ว ในฐานะที่อยู่อาศัยของเกษตรกรไร้ที่ดิน ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการสร้างแหล่งผลิตอาหาร ภายใต้แนวทางเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

2.เราจะร่วมกันผลักดันให้มีการคืนพื้นที่ของอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวนเนื้อที่ 1 ล้านกว่าไร่ ( โดยเฉพาะการปลูกสร้างสวนป่าตามโครงการ ที่ดำเนินการตามเงื่อนไขสัมปทานทำไม้) เพื่อส่งคืนให้กับรัฐบาลเพื่อนำมาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยนำมาใช้ จัดสรรในลักษณะกรรมสิทธิ์ส่วนรวมให้กับองค์กรของเกษตรกร เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ทั้งในฐานะพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการปลูกสร้างป่าชุมชน พัฒนาระบบนิเวศของชุมชน

3.เราจะร่วมกันผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบาย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรและที่ดิน โดยมีเป้าหมายกระจายการถือครองที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สร้างความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในสังคม

ภายหลังจากอ่านแถลงการณ์แล้วชาวบ้านยังได้จัดทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับชาวบ้านบ่อแก้วที่ถูกรัฐฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย ซึ่งถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็นนักปกป้องสิทธิในที่ดินทำกิน ปกป้องสิทธิมนุษยชนและต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง

ทั้งนี้ ชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว และเครือข่ายแนวร่วมจากภาคประชาชนต่างๆ รวมทั้งนักศึกษา ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสื่อสารให้บุคคลทั่วไป และผู้สัญจรไปมาได้เข้าใจถึงความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกิน ที่ถูกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.อ.ป.ปลูกสร้างสวนป่าทับที่ทำกิน และจะถูกไล่รื้อออกจากพื้นที่ในวันนี้ ตามกำหนดหมายบังคับคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน