พ่อค้าขายลาบปิดร้าน ขนของกลับภูมิลำเนา หลังก่อเหตุยิงแม่ค้าไก่ย่าง ตร.แจ้ง 3 ข้อหา
จากกรณีนายฤทธิ์ อายุ 45 ปี พ่อค้าขายลาบรถเข็น ใช้อาวุธปืนกราดยิงหน้าร้านขายไก่ย่าง และร้านก๋วยเตี๋ยว บริเวณข้างปั๊ม ปตท.บ้านยาง ริมถนนสาย บุรีรัมย์-สตึก ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้าต่างวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง โดยสาเหตุเกิดจากพ่อค้าร้านลาบรำคาญควันไก่ย่างแม่ค้าที่ขายอยู่ติดกัน เหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 28 ส.ค. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาพ่อค้าขายลาบคนก่อเหตุไปแล้ว 3 ข้อหา คือ “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, และยิงปืนในที่สาธารณะ” เบื้องต้นได้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุมีอาการบาดเจ็บ จากการถูกรุมทำร้ายร่างกาย
ซึ่งญาตินำตัวกลับไปรักษาที่ จ.อุบลราชธานี และไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาอื่นหรือไม่ ก็ต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ประกอบกับขณะนี้ยังไม่มีพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้เสียหายรายใด เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่เป็นการจับกุมตามพฤติการณ์การก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด 9 ม.ม. มีการจดทะเบียนถูกต้อง หลังก่อเหตุพนักงานสอบสวนก็ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุให้การว่า ในวันเกิดเหตุนั่งดื่มสุราแล้วเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนจะวิ่งไปเอาปืนที่รถออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่คนที่นั่งกินเหล้าแล้วมีปากเสียงกัน ไม่ได้เจาะจงจะยิงใคร จากนั้นลูกสาวก็มาแย่งปืนจากมือไป แล้วผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ก่อเหตุจนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และมีรอยหกช้ำตามร่างกาย ส่วนสาเหตุเกิดจากที่ไม่พอใจเรื่องควันแม่ค้าขายไก่ย่างหรือไม่ ก็ต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของพ่อค้าแม่ค้า ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยตรวจตราดูแลความปลอดภัยในเบื้องต้นแล้ว
ด้าน นางติ๋ว เย็นดีรัมย์ อายุ 52 ปี แม่ค้าขายไก่ย่าง เผยว่า ยังคงมาขายตามปกติ ยอมรับว่ากลัวแต่จำเป็นต้องมาขาย เพราะต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจตราดูแล แต่ก็ยังรู้สึกกังวลเพราะไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาอีกหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่อยากจะมีเรื่อง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปตอบโต้อะไร และพยายามแก้ไขเรื่องควันโดยการนำพัดลมมาดูดควันแล้ว บางช่วงที่มีลมก็อาจจะมีควันบ้าง ตอนนี้ต้องการแค่ความปลอดภัยในชีวิตเท่านั้น ไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราวให้เป็นปัญหาบานปลายเพราะตนต้องทำมาหากินทุกวัน
ส่วนร้านขายลาบที่ก่อเหตุ หลังจากวันที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้มาเปิดขายอีก และทราบว่าได้ขนข้าวของกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุบลราชธานี ไปแล้ว
