เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ห้องสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนฯ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหากรณี “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5, โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิบ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.ฯ, นำโดย พ.ต.ท.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.ท.อนันต์ พรมมานอก รอง.สว.(สส.)ฯ, ด.ต.ศักดา ถุงเงิน, ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธุ์, ด.ต.ธนวินท์ พรหมวังขวา, ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ, จ.ส.ต.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง และ ส.ต.ต.เสถียร เปาแก้ว

จับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายเอกพันธ์ หรือโอม ทูลโรจน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 2 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่178/2560 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2560 2.นายเจษฎา หรือบี ปัญญาวรรณ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 7 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จว.ลำพูน ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่179/2560 ลงวันที่ 11 มี.ค.2560

พร้อมด้วยของกลาง 1.เสื้อกันหนาวสีแดงแบบมีหมวก จำนวน 1 ตัว 2.กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว สวมใส่ขณะก่อเหตุ 3.รองเท้าแตะแบบสวม สีชมพู จำนวน 1 คู่ สวมใส่ขณะก่อเหตุ 4.กระเป๋าคาดเอวสีขาว/น้ำตาล ลายธงชาติสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 ใบ 5.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นสกูปี้สีแดง จำนวน 1 คัน 6.รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่

ก่อนการจับกุมในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก พนักงานสอบสวนเวร ว่าเกิดเหตุลักทรัพย์หมวกกันน็อคของผู้เสียหาย เหตุเกิดลานจอดรถจักรยานยนต์โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ถ.ราชวิถี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2560 เวลาประมาณ 13.30-14.00 น. จึงได้สอบสวนปากคำผู้เสียหายร่วมกับพนักงานสอบสวน ทราบว่าทรัพย์สินธุที่คนร้ายได้ไปเป็นหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาวยี่ห้อ RIDER ราคา 1,500 บาท จำนวน 1 ใบ

เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นจึงได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายจากทรัพย์สินย์ที่คนร้ายได้ไป ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายเดินทางมา และกลับก่อนและหลังก่อเหตุ นำประวัติบุคคลพ้นโทษที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์มาทำการตรวจสอบ และทำการประสานร้านรับซื้อ-ขายหมวกนิรภัย ให้ช่วยตรวจสอบ จนสามารถรวบรวมเอกสารหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของคนร้ายทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวนร้องขอหมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.178/2560 และ จ.179/2560 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2560 ในเรื่องซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งสายลับ แจ้งว่าชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน นำหมวกนิรภัยมาเสนอขายให้กับทางร้านโดย 1 ใน 2 คน เป็นชายแต่ทำตัวเป็นหญิง ซึ่งมีรูปร่างลักษณะตรงกันกับคนร้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไว้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งให้สายลับรับซื้อหมวกใบดังกล่าวไว้ แล้วขอทำการถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวผู้ขายไว้ จากนั้นคนที่มีพฤติกรรมเป็นหญิงนำบัตรประจำตัวประชาชนออกมาแสดงกับสายลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุชื่อนายเจษฎา หรือบี ปัญญาวรรณ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 หมู่ 7 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พร้อมกับรับเงินจากสายลับแล้วพากันออกจากร้านไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลตามที่สายลับได้จากชายวัยรุ่นทั้ง 2 คน และตรวจสอบภาพถ่ายขณะคนร้ายทั้ง 2 คนนำเอาหมวกนิรภัยมาเสนอขายให้กับสายลับพบว่ามีรูปร่างลักษณะตรงกันกับ คนร้ายที่ก่อเหตุลักหมวกนิรภัยที่ลานจอดรถภายในโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต่อมาพบเห็นนายเจษฎา และนายเอกพันธ์ อยู่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง จึงจับกุมตามหมายจับ พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุและตรวจยึดหมวกนิรภัยและของกลางอื่นอีกหลายรายการ

จากการสืบสวนขยายผลนายเอกพันธ์ ทูลโรจน์ รับว่าได้ร่วมกันกับนายเจษฎา ปัญญาวรรณ์ ก่อเหตุลักหมวกกันน็อคตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เป็นต้น อีกหลายท้องที่ รวม 42 ครั้ง ได้หมวก 47 ใบ หลังจากลักเอาหมวกของผู้เสียหายมาได้ จะนำไปขายให้กับร้านรับซื้อ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามข้อหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน