องค์กรโลก แถลงจี้ดีเอสไอ คลี่คดีอุ้มฆ่าบิลลี่ ย้ำต้องรีบเอาฆาตกรมาลงโทษ

กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบางกลอย-โป่งลึก ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ควบคุมตัวไปข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่า ซึ่งหลังจากนั้นไม่มีใครพบเห็นบิลลี่ อีกเลย

โดยระบุว่า “นายพอละจี รักจงเจริญ ที่เสียชีวิตแล้วโดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตาย แต่นำมาเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี”

ความคืบหน้าวันที่ 4 ก.ย. นายเฟรเดอริก รอว์สกี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ICJ กล่าวว่า ดีเอสไอควรเพิ่มความพยายามมากขึ้นเพื่อระบุตัวผู้ที่กระทำการสังหารบิลลี่ และนำตัวพวกเขามาสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้าประเมินพยานหลักฐานและพบว่าบิลลี่ตกเป็นเหยื่อของการบังคับบุคคลให้สูญหาย

ผู้กระทำความผิด รวมทั้งผู้ที่มีหน้าที่ในการบังคับบัญชาบุคคลดังกล่าว ควรถูกดำเนินคดีในข้อหาที่เหมาะสมและร้ายแรงโดยสอดคล้องกับพันธกรณีของประเทศไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ มิใช่การตั้งข้อหาตามความผิดอาญาที่เบากว่าและไม่สะท้อนความร้ายแรงของความผิดที่เกิดขึ้น

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ด้าน นายนิโคลัส เบเคลัง รักษาการผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่นักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยต้องเผชิญ ทั้งการถูกทำร้าย ตกเป็นเหยื่อการบังคับบุคคลให้สูญหาย และการสังหาร

คดีนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ถูกเพิกเฉยมานาน โดยรัฐบาลไทยต้องกำหนดให้การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายในประเทศ หากไม่ทำเช่นนั้น ย่อมส่งผลให้ขาดกลไกที่เป็นอิสระ เป็นกลาง และมีประสิทธิภาพนการที่จะสอบสวนคดีเหล่านี้ ทั้งยังทำให้บรรยากาศการลอยนวลพ้นผิดเลวร้ายลง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน