แทบหมดตัว! ฤทธิ์พายุ คาจิกิ พัดถล่มเมืองจันท์เละ ซัดสวนผลไม้โค่นต้นทุเรียน-มังคุดล้มระเนระนาดหลายสิบไร่ สูญกว่า 7 แสนบาท เผยหนักสุดในรอบ 60 ปี

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง นางสายทอง สร้อยสน อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี ว่าสวนทุเรียนของตัวเองและเพื่อนบ้านถูกลมพายุฝนซัดกระหน่ำ ต้นทุเรียน ตลอดจนไม้ผลยืนต้น หักโค่นล้ม ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ซึ้ง อ.ขลุง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบ นายสายทอง ได้พาไปสำรวจความเสียหายภายในสวนผลไม้ที่ตนเองและญาติพี่น้องได้ร่วมกันเป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบพบสวนทุเรียนและมังคุดได้รับความเสียหาย ต้นทุเรียนกว่า 30 ต้น อายุตั้งแต่ 10-30 ปี ถูกแรงลมพายุพัดกระหน่ำจนโค่นล้มถอนรากถอนโคนเสียหายเป็นวงกว้างครอบคลุมพื้นที่หลายสิบไร่

พิษพายุ คาจิกิ ถล่มจันทบุรีอ่วม สวนผลไม้เละนับสิบไร่

พิษพายุ คาจิกิ ถล่มจันทบุรีอ่วม สวนผลไม้เละนับสิบไร่

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” โดยแรงลมพายุได้พัดจนต้นทุเรียนหักโค่นถอนรากถอนโคน บางต้นกิ่งหัก และบางต้นก็ล้มทับเสาไฟฟ้าที่ต่อไว้ภายในสวนได้รับความเสียหาย โดยเหลือพื้นที่ในสวนผลไม้เพียง 5 ไร่ที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย ส่วนที่เหลือกว่า 10 ไร่ ได้รับความเสียหายทั้งหมด

จากการสอบถาม นายสายทอง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี ตั้งแต่ตนเกิดมาเพิ่งเคยเห็น ที่ผ่านเคยถูกลมพายุพัดต้นทุเรียนจนล้มอย่างมากก็ไม่เกิน 5 ต้น แต่คราวนี้รุนแรงมาก ซึ่งขณะเกิดเหตุตนยังไม่ทราบและไม่อยู่บ้าน หรือบางคนที่มีสวนอยู่ไกลบ้าน

พายุถล่มเมืองจันท์หนักสุดรอบ 60 ปี

พายุถล่มเมืองจันท์หนักสุดรอบ 60 ปี

นายสายทอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หลังคาโรงรถยังถูกแรงลมพัดจนได้รับความเสียหาย กระเบื้องหลายสิบแผ่นปลิวหายไปทั้งแถบคิดเป็นมูลค่าเสียหายในเบื้องต้น รวมกว่า 7 แสนบาท โดยขณะนี้ตนและญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ได้ประสานแจ้งไปยังเกษตร อ.ขลุง เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบความเสียหาย เพื่อขอรับการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.จันทบุรี ได้พยายามประกาศแจ้งเตือน ให้ประชาชน และเกษตรกรเฝ้าระวังผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำรอการระบาย โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่ม เชิงเขา และพื้นที่ริมคลอง ริมแม่น้ำที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งออกไปอีก 1-2 วันนี้ จนกว่าพายุ “คาจิกิ” จะอ่อนกำลังลง

หลังคาโรงรถปลิวว่อนจากฤทธิ์พายุคาจิกิ

หลังคาโรงรถปลิวว่อนจากฤทธิ์พายุคาจิกิ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน