ทีมทนายความ “ชัยภูมิ” ลงพื้นที่บ้านรินหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ลั่นไกสังหารเด็กลาหู่และพูดคุยพยาน เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม เผยเบื้องต้นเชื่อ จนท.น่าจะยิงปืนใส่มากกว่า 1 นัด เตรียมทำเรื่องขอผลชันสูตรศพจากโรงพยาบาลนครพิงค์มาตรวจสอบอย่างละเอียด

จากกรณีทหารจับตายนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนเผ่าลาหู่ วัย 17 ปี นักกิจกรรมทางสังคม โดยอ้างว่าวิ่งหนีขณะตรวจค้นยาเสพติด และเตรียมขว้างระเบิดใส่ จึงจำเป็นต้องวิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่บริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเครือข่ายชนเผ่า 33 องค์กร พร้อมด้วยองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก ต่างออกแถลงการณ์เรียกร้องความเป็นธรรม และตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่ ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ทีมทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและดูแลการต่อสู้คดีให้กับครอบครัวนายชัยภูมิ ป่าแส เดินทางลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมนำไปประกอบเรื่องในดำเนินการทางกฎหมายตามที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ และขอความเป็นธรรมจากฝ่ายนายชัยภูมิ โดยพบปะพูดคุยกับครอบครัวของนายชัยภูมิ และพยานในพื้นที่ รวมทั้งตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง

นายสุมิตรชัย หัตถสาร หนึ่งในทีมทนายความสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่ร่วมลงพื้นที่ด้วย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อพูดคุยทำความเข้ากับทางครอบครัวของนายชัยภูมิ ให้ทราบสิทธิทางกฎหมายต่างๆ และพูดคุยกับพยานในพื้นที่พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นกับพยานที่มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับแม่ของผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งคน ที่เสียชีวิตไปช่วงก่อนหน้านี้ในลักษณะเดียวกันนายชัยภูมิ ขณะเดียวกันเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำการตรวจสอบและรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำได้ข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเพิ่มมากขึ้น

นายสุมิตรชัย เปิดเผยว่า ในประเด็นที่มีการระบุว่าทางเจ้าหน้าที่มีการใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิเพียงนัดเดียวเท่านั้น จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้มีข้อมูลหลักฐาน ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีการยิงปืนมากกว่าเพียงแค่นัดเดียว ขณะที่พยานที่อยู่ในพื้นที่ก็ต่างยืนยันตรงกันว่า ได้ยินเสียงปืนมากกว่าหนึ่งนัด และร่องรอยศพที่เห็นจากภาพถ่ายก่อนที่จะมีการประกอบพิธีกรรม ก็ทำให้เชื่อได้ว่าอาจจะเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ทางทีมงานทนายความเตรียมจะทำเรื่องขอข้อมูลผลการชันสูตรศพของนายชัยภูมิ จากโรงพยาบาลนครพิงค์ เพื่อนำมาตรวจสอบดูรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ซึ่งน่าจะทำให้เกิดความชัดเจนในประเด็นนี้มากขึ้น

ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่มีการระบุว่า นายชัยภูมิ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนั้น นายสุมิตรชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายชัยภูมิ ทั้งจากคนในพื้นที่หมู่บ้าน, โรงเรียน รวมทั้งเครือข่ายเยาวชน และนักกิจกรรมเพื่อสังคม ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับนายชัยภูมิ ต่างยืนยันตรงกันว่านายชัยภูมิ เป็นคนที่มีความประพฤติดี เรียนดี และช่วยเหลือครอบครัวเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น จากการพูดคุยกับผู้ที่คลุกคลีกับนายชัยภูมิ ไม่มีการระบุเช่นนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน