จับ ‘กำนันปุ๊’ กำมะลอ อ้างรู้จักเศรษฐีดูไบ หลอกชาวบ้านกู้เงิน ฟันหัวคิวกว่า 100 ล้าน

‘กำนันปุ๊’ / เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ สว.กก.3 บก.ป.

นำกำลังจับกุมนายพงศ์สันต์ ยะวาโนภาส หรือ ‘กำนันปุ๊’ อายุ 43 ปี ชาว ต.ดอกจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 58/2561 และ 59/2561 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง

กับนายประสิทธิ์ ฉิมมาลี อายุ 30 ปีชาว ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 315/2561 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยทั้งคู่ถูกจับได้ภายในตลาดอู่ฟู่ ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.บุญลือ เปิดเผยว่า นายพงศ์สันต์ มักอ้างตัวเป็น ‘กำนันปุ๊’ ซึ่งเป็นกำนันอยู่ที่จังหวัดแห่งหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะแอบอ้างว่า ตนรู้จักกับนายทุนเงินกู้จากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถจัดหาเงินทุนให้ชาวบ้านกู้ยืมได้ง่ายๆหลายร้อยล้านบาท

หากสนใจก็สามารถติดต่อกับตนเองได้ แต่มีข้อแม้ว่า ผู้จะกู้เงิน ก็ต้องยอมจ่ายดอกเบี้ยค่าดำเนินการให้กำนันปุ๊ก่อน คิดเป็นเงิน 2% ของวงเงินที่จะกู้ หากใครจ่ายมาก ก็จะได้กู้มาก ซึ่งก็มีเหยื่อที่หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ยอมจ่ายเงินไปหลายแสนบาท สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เงินกู้ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

พ.ต.อ.บุญลือ เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ยังทราบพฤติกรรมของนายพงศ์สันต์ อีกว่า เคยร่วมกับพวกหลอกลวงเหยื่อ เพื่อให้นำเงินมาลงทุนซื้อเงินดิจิทัลสกุลเงินต่างๆ เช่น วันคอยน์, บิตคอยน์, ริปเปิล และอีเทอเรียม อ้างว่าผลกำไรดี โดยลงทุนเพียง 100 วัน จะได้กำไรถึง 4-5 เท่า

นายพงศ์สันต์อ้างตัวว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเงินดิจิทัล เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อยอมลงทุนด้วย นายพงศ์สันต์และพวกก็หอบเงินหนีไปซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน รอจนเรื่องเงียบก็กลับมาก่อเหตุกับเหยื่อรายใหม่ต่อไป จนถูกตำรวจออกหมายจับไว้แล้วรวมเกือบ 10 หมาย ความเสียหายรวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายพงศ์สันต์ กำลังมาจะมาที่ตลาดอู่ฟู่ จ.ขอนแก่น หลังไปก่อเหตุหลอกลวงหญิงชราเหยื่อรายใหม่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมกับนายประสิทธิ์ คนขับรถ ระหว่างนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี เจ้าหน้าที่เห็นนายประสิทธิ์ ลักษณะมีพิรุธ จึงได้ตรวจสอบประวัติ และพบว่า มีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันกับนางพงศ์สันต์ ติดตัวด้วย เนื่องจากเป็นผู้ร่วมก่อเหตุจึงได้จับกุมตัวทันที

เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวนายพงศ์สันต์ ส่งสภ.ร้อยเอ็ด ส่วนนายประสิทธิ์ ส่งตัวให้สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน