วันที่ 14 เมษายน 2560 ร.ต.ท.ชัชพงศ์ เลี่ยมวิไล ร้อยเวรสอบสวน สภ.หัวหิน พร้อม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพชรเกษม ได้รีบเดินทางมาตรวจสอบหลังได้รับแจ้งเหตุปล้นที่ร้านขายยา โดย ที่เกิดเหตุ คือ ร้านเมืองยา ณ หัวหิน ตั้งอยู่ด้านหน้าริมถนนเพชรเกษมสายหัวหิน-หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นางสุจิตรา สีม่วง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 3 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพบว่าภายในร้านขายยามีร่องรอยของการต่อสู้ ยาที่ตั้งไว้จำหน่ายตกกระจายเต็มพื้นที่ร้าน

 

นางสาวจีรวรรณ หิ่งห้อย พนักงานของร้านเมืองยา เล่าเหตุการณ์ระทึกที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆว่า ก่อนเกิดเหตุเห็น นางสุจิตรา ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน กนข.577ประจวบคีรีขันธ์ มาจอดแล้วเดินเข้ามาในร้านโดยใส่หมวกกันน็อคและสวมหมวกผ้าที่ชาวไร่สับปะรดใช้ปิดบังใบหน้าเข้ามาในร้านด้วย จากนั้นทำทีขอซื้อยาจำนวนมากและหลายชนิด แล้วเดินไปเดินมาภายในร้านคล้ายจะสำรวจร้าน ซึ่งตนก็แปลกใจตั้งแต่ไม่ยอมถอดหมวกกันน๊อกเข้ามาในร้านแล้ว ทำให้คิดระวังตัวแล้วว่ามีความผิดสังเกต และก็เป็นจริงดังคาด เมื่อนาทีที่ตนเปิดเครื่องคิดเงิน พบว่า นางสุจิตรา ได้รีบเดินเข้ามาด้านข้างในจุดที่คิดเงินและชักมีดปลายแหลมออกมา

 

“ตนบอกไม่มีเงิน เพราะให้เงินเจ้าของร้านไปหมดแล้ว นางสุจิตรายังไม่ยอมถอยแต่กลับบอกให้ตนถอดสร้อยคอทองคำให้แทน แต่ตนไม่ยอมจึงวิ่งหนี ก่อนจะพยามต่อสู้ป้องกันตัว เพราะนางสุจิตราใช้มีดแทงที่ตนเองถึง 2 ครั้ง แต่ตนจับข้อมือได้ทันและบิดข้อมูลคนร้ายออกให้ห่างตัว ก่อนจะแย่งมีดจากคนร้ายได้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นคงเสียชีวิต และแม้จะบอกว่าในร้านมีกล้องวงจรปิดอยู่แต่พบว่าคนร้ายยังคง ใช้กำลังพยายามกระชากสร้อยคอทองคำและไม่ยอมหยุด เมื่อต่อสู้กันสักครู่ พบว่าพนักงานร้านข้างเคียงซึ่งคาดว่าคงจะได้ยินเสียงสิ่งของในร้านตกจากการต่อสู้ จึงเดินมาดูเมื่อเห็นเหตุการณ์ ได้เข้ามาช่วยแยกตนออกมาได้สำเร็จ แล้วนำตัวไปนอกร้านเอามือดันประตูไว้แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมได้ดังกล่าว”

 

พนักงานร้านขายยา เล่าเพิ่มเติมด้วยว่า ในอดีตตนเรียนที่โรงเรียนพละศึกษาจังหวัดชุมพร และทางโรงเรียนได้สอนวิชาต่อสู้ศิลปะการป้องกันตัวขั้นพื้นฐานให้นักเรียน ตนก็เรียนและฝึกฝนการต่อสู้ตั้งแต่ตอนนั้น ไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสได้นำมาใช้ในเหตุการณ์จริง ยอมรับเลยว่า ที่ตนรอดมาได้ในครั้งนี้สิ่งสำคัญคือตนตั้งสติพร้อมรับมือกับคนร้าย

 

ทางด้าน นางสุจิตรา สีม่วง ผู้ต้องหา กล่าวยอมรับด้วนใบหน้าเศร้าและน้ำตาคลอเบ้าตาว่า ตนมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง สามีเป็นพนักงานอยู่ร้านเกมส์ มีลูกด้วยกันถึง 3 คน และขณะนี้ตนมีหนี้สินกว่า 4 หมื่นบาทที่เกิดจากการกู้ยืมเงิน แต่ไม่มีเงินใช้หนี้เลย และล่าสุดสามีเพิ่งไปออกรถจักรยานยนต์ มาใหม่อีก1คัน ซึ่งก็ไม่มีเงินผ่อนชำระค่างวดเช่นกัน ทำให้เกิดความเครียดอย่างหนัก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ก่อนนึกถึงร้านขายยาที่เคยเข้ามาซื้อยาไปกิน แล้วตัดสินใจเข้ามาจี้ชิงทรัพย์ ไม่คิดจะทำร้ายใครแค่หวังเงินไปใช้หนี้เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม หลังสอบสวนเสร็จตำรวจได้ควบคุมตัวนางสุจิตราที่ลงมือก่อเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน