สาวฮึดสู้โจร บุกชิงทรัพย์ในบ้าน เจ้าของร้านอาหารดัง ใจเด็ด โดดปล้ำจนปืนลั่น
สาวฮึดสู้โจร / เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ร.ต.ท.ธวัชพล แช่มช้อย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร มีเหตุขอความช่วยเหลือ
มีคนร้ายบุกชิงทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 69/41 ซอยเกาะสมุทร หมู่ที่ 6 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรีบนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบเป็นลักษณะเป็นบ้านปูนขนาดใหญ่ 2 ชั้น ภายในพบผู้เสียหายคือ น.ส.อำไพ จิระวงศ์วิศาล อายุ 37 ปี เป็นลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวข้าวหอม ร้านอาหารชื่อดังในตัวเมืองสมุทรสาคร ซึ่งยังอยู่ในการอาการตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 นัด, ถุงพลาสติกสีเขียวที่คนร้ายถือมาตกอยู่ 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือของคนร้ายอีก 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.อำไพ หรือน้องเล็กเจ้าของร้านอาหารครัวข้าวหอม เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นว่า บ้านหลังนี้ปกติจะมีคนอยู่ 5-6 คน เช้าวันนี้สามีออกไปทำธุระข้างนอก ส่วนคนอื่นก็ออกไปทำงาน ตนเลยยังอยู่บ้านนอนเล่นกับลูกสาววัย 4 ขวบและแม่ โดยนั่งกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่นข้างล่างที่เป็นห้องกระจก
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
จู่ๆก็มีชายรูปร่างเล็ก สวมหมวกกันน็อก เดินเข้ามาเคาะประตูที่หน้าห้องกระจก พร้อมกับตะโกนถามว่านี่บ้านเฮียลพ (พ่อของสามี) ใช่หรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบไปว่าใช่ แล้วคนร้ายก็ยื่นถุงสีเขียวให้ดู โดยบอกว่าเอาพระเครื่องมาส่งให้เฮียลพ
ตนจึงเปิดประตูห้องออกมาแล้วก็บอกว่าจะโทรถามพ่อสามีก่อน แต่พอหันหลังให้คนร้ายรีบเข้ามาล็อกคอแล้วชักอาวุธปืนออกมา วินาทีนั้นตนคิดเพียงแค่ว่า ต้องรักษาชีวิตของทั้ง 2 คนเอาไว้ให้ได้ จึงฮึดสู้กดล็อกมือของคนร้ายเอาไว้ จำได้แค่ว่าสู้กันอยู่สักพักก็ได้ยินคล้ายกับเสียงลั่นไกดังขึ้น
จากนั้นแม่ของตนก็ออกมาช่วยอีกแรง ทำให้คนร้ายเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีไปทางไหนไม่รู้ น.ส.อำไพกล่าวว่าอีกว่า ตนเชื่อว่าที่รอดชีวิตมาได้ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อรุ่ง รุ่นปี 33 ที่ตนแขวนติดคอตลอดตลอด
ทั้งนี้คนในครอบครัวเชื่อว่าคนร้ายรายนี้ประสงค์ต่อทรัพย์สินภายในบ้านที่เป็นพระเครื่องเท่านั้น เพราะเข้ามาถามว่านี่ใช่บ้านเฮียลพหรือไม่ ซึ่งเป็นเฮียลพที่คนร้ายถามถึงนั้นเป็นพ่อของสามีตน แล้วยังบอกว่าเอาพระเครื่องมาส่งให้ จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมีคนที่รู้ว่าพ่อของสามีเป็นคนชอบเล่นพระเครื่องและคาดว่าพ่อน่าจะเก็บพระเครื่องมีค่าไว้ในบ้านหลังนี้
จึงมีใบสั่งให้คนร้ายเข้ามาลักพระเครื่องในตอนกลางวันเนื่องจากคิดว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน โดยเตรียมถุงสีเขียวพร้อมผ้ามาใส่พระเครื่องที่จะลักขโมยไป แต่เมื่อมาเจอคนในบ้านจึงแก้สถานการณ์ด้วยการทำทีว่าจะเอาพระมาให้พ่อสามี ซึ่งพอตนทำทีไม่เชื่อก็เลยเกิดการใช้อาวุธปืนข่มขู่ และนำไปสู่การต่อสู้ขัดขืนระหว่างคนร้าย กับตนและแม่ของสามี จนคนร้ายสู้ไม่ไหวหลบหนีไป
