จับแล้ว! หนุ่มเมากร่าง รัวหมัดใส่ลูกค้าร้านเครป สารภาพสิ้น หูแว่วได้ยินคนด่า ก่อนย้อนกลับมาถามว่า “มองหน้าผมทำไม” และลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายทันที

หนุ่มเมากร่าง / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.บ้านเป็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัว นายไมตรี โพธิ์ลังกา หรือ มอส อายุ 23 ปี หลังลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกค้าร้านเครปที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

ตำรวจสอบปากคำ หนุ่มเมากร่าง หลังก่อเหตุต่อยลูกค้าร้านเครป

ตำรวจสอบปากคำ หนุ่มเมากร่าง หลังก่อเหตุต่อยลูกค้าร้านเครป

จากการสอบสวน นายไมตรี ให้การรับสารภาพว่า หลังจากตนกลับจากดื่มสุรากับเพื่อนในตัวเมืองขอนแก่น ก็ได้ขับรถผ่านมาในเส้นทางดังกล่าว และได้ยินเสียงผู้บาดเจ็บตะโกนด่า แต่ตนไม่รู้ว่าด่าว่าอะไร จึงขับรถย้อนกลับมา พร้อมถามว่า “พี่มองหน้าผมทำไมครับ” ก่อนจะถามย้ำอีกครั้งแล้วลงมือทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิป และขับรถหลบหนีไปทันที

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ภายหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หนีไปไหน กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากจะขอโทษผู้บาดเจ็บ ยอมรับว่าเมาทำให้ขาดสติ จึงลงมือก่อเหตุขึ้นเพราะหูแว่วเข้าใจผิดไปเอง และจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น และฝากถึงคนอื่น ๆ ที่ดื่มเหล้า ควรมีสติตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” นายไมตรี กล่าว

ผู้ต้องหากรณีทำร้ายร่างกายลูกค้าร้านเครปในพื้นที่ขอนแก่น

ผู้ต้องหากรณีทำร้ายร่างกายลูกค้าร้านเครปในพื้นที่ขอนแก่น

พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งได้ภาพจากกล้องวงจรปิด และทราบทะเบียนรถ จึงช่วยให้ติดตามได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท

พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนเยาวชนที่มาด้วยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งมีบางคนไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่ และบางคนก็ไม่มีใบขับขี่ ส่วนรถจักรยานยนต์ก็ได้ทำการตรวจยึด เพื่อตรวจสอบว่ารถมีทะเบียน หรือเสียภาษีประจำปีหรือไม่ จากนั้นจะได้แจ้งผู้ปกครองมารับทราบและนำรถกลับไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน