เด็ก1ขวบ ท้องเสียช็อกดับ พ่อแม่ร่ำไห้ เล่านาทีสูญเสียลูกน้อย ข้องใจพยาบาล

วันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี และ นางวาสนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาว ต.ทุ่งพึ่ง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี โพสต์เฟซบุ๊กหลังจากลูกชายวัย 1 ขวบ เสียชีวิต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้แก่ผู้ปกครองที่กำลังดูแลลูกหลานอยู่

จากการสอบถามทั้งสองคนทราบว่า ลูกชาย อายุ 1 ขวบ 1 เดือน 22 วัน ได้เสียชีวิตลง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ลูกนอนหายใจติดขัด เพราะเป็นโรคหลอดลมตีบ และช่วงเช้าวันถัดมา จึงพาไปหาหมอและนอนที่โรงพยาบาล 2 วัน เพื่อพ่นยา จนมาถึงวันที่ 28 ต.ค. มีไข้ 38.2 องศา เมื่อหมอมาตรวจฟังเสียงปอด ยังมีเสลด จึงต้องนอนรพ.ต่อ

พอวันที่ 30 ต.ค. ลูกชายมีอาการถ่ายหนักถึง 20 ครั้ง ต่อวัน จึงขอหมอส่งรีเฟอร์ไปอีกโรงพยาบาล แต่พยาบาลตอบกลับว่า หนักกว่านี้ยังไม่ขอส่งตัวเลย จากนั้นลูกก็ท้องเสียถ่ายหนักกว่าเดิม

ต่อมาวันที่ 31 ต.ค ลูกก็ยังถ่ายหนักและไข้สูงวัดได้ 40 ต้นๆ มีอาการตัวร้อนมาก เลยนำน้องไปเช็ดตัว แต่ไม่มีท่าทีดีขึ้น พยาบาลเลยนำยามาฉีดให้น้อง จำนวน 2 เข็ม หลังจากฉีดยาไปประมาณสามทุ่ม ลูกมีอาการตาเหลือก ตาค้างเกร็ง

ต่อมา เวลา 22.00 น. พยาบาลมาพ่นยาให้ ลูกก็มีอาการเหนื่อยมาก และช็อกตาเหลือกค้างนิ่งไป จึงขอหมอส่งตัวแต่หมอตอบกลับมาว่า น้องมีไข้ให้พาไปอาบน้ำแล้วมาทานยา ลูกก็อาการดีขึ้นมาได้ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็มีอาการชักเกร็งเหมือนเดิมอีก จึงขอร้องอ้อนวอนให้หมอส่งตัว พอพยาบาลเห็นน้องอาการไม่ดี จึงรีบสั่งรีเฟอร์ไปอีกโรงพยาบาล

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะกำลังส่งตัวลูกรีเฟอร์ ตอนนั้น เวลา 00:22 น. พอถึงอีกโรงพยาบาล พยาบาลที่ขึ้นรถรีเฟอร์ลูกมาได้ให้ข้อมูลแค่ว่า ลูกมีน้ำมูกหายใจไม่สะดวกมีไข้

จากนั้น หมอ พูดขึ้นว่า ทำไมโรงพยาบาลนั้นทำกับน้องแบบนี้ ถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะไม่รอด หมอมาบอกกับแม่ว่า ทางโรงพยาบาลแรก ได้ฉีดยากลุ่มเดียวกับที่น้องมีประวัติการแพ้ยามาอยู่แล้ว ทำให้น้องมีอาการตาค้างชักเกร็ง หมอได้เก็บอุจจาระกับเลือดน้องไปตรวจ จากนั้นน้องมีอาการตาเหลือกนิ่งไม่รู้ตัว

เมื่อเข้าสู่วันที่ 1 พ.ย น้องมีอาการชักเกร็งหายใจเองไม่ได้ หมอสั่งให้ดูดเสลดและใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะใส่ท่อน้องได้มีการหยุดหายใจ หมอพยายามช่วยจนน้องกลับมา และย้ายขึ้นห้อง ICU หลังที่น้องอยู่ ICU ประมาณ 18:30 น. หมอแจ้งว่าน้องหยุดหายใจ ซึ่งหมอและพยาบาลพยายามช่วย ให้หัวใจน้องกลับมา และได้ฉีดยากระตุ้นหัวใจ

หมอเรียกพ่อแม่เข้าไปปรึกษา หมอบอกว่าน้อง 50/50 แต่โอกาสรอดน้อยมาก ทางครอบครัวสงสารลูกมาก ที่ต้องมาทรมาน จึงเซ็นยินยอมไม่ปั๊มหัวใจ ไม่ฉีดยากระตุ้นหัวใจ

จากนั้นหมอใหญ่เข้ามาหาน้อง แม่จึงตัดสินใจถามสาเหตุของน้องว่าเกิดจากอะไรแน่ หมอบอกน้องติดเชื้อที่ลำไส้ ปอดติดเชื้อ ในเลือดเป็นกรดติด เชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง เชื้อได้กระจายไปทั่วร่างกาย หมอจะช่วยได้เท่าที่ช่วย ได้ให้ยาฆ่าเชื้อที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล

จากนั้นเวลาประมาณ 23:49 น. พยาบาลมาตามทางครอบครัวเข้าไปอยู่กับน้องเพราะความดันต่ำลงๆ ชีพจรน้อยค่อยๆอ่อนลง และเวลา 00:05 น้องก็ได้จากไป

นายอนันต์ กล่าวว่า ทางครอบครัวฝากถึงโรงพยาบาลแรกที่พาลูกไปรักษา น้องไข้สูง แต่อาบน้ำกินยา น้องท้องเสียหนักมากถึง 2 วัน ภายใน 2 วัน น้องถ่ายตลอดเวลา แต่ให้น้องกินแค่เกลือแร่ ไม่มียาฉีด ไม่มียาฆ่าเชื้อ ไม่มีการตรวจเลือด แล้วมาบอกว่า ผลตรวจน้องปกติทุกอย่าง และยังบอกว่ารักษาได้ น้องไม่ได้เป็นอะไร แค่มีไข้สูงกินยาเดี๋ยวน้องก็เบาลง

“สาเหตุที่นำเรื่องราวไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก เพื่อเป็นอุทาหรณ์สะเทือนใจ เด็ก 1 ขวบ 1 เดือน ท้องเสียถึงกลับเสียชีวิต ครอบครัวไม่ติดใจในการเสียชีวิต และไม่เรียกร้องอะไรจากโรงพยาบาล ไม่มีการแจ้งความ แต่ขอให้ลูกผมเป็นเคสสุดท้ายที่ทางโรงพยาบาลได้ทำอะไรแบบนี้” นายอนันต์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน