วันที่ 18 เม.ย. ร.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ นครเรียบ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้มีดพยายามจี้ชิงทรัพย์แม่ค้าร้านขายของชำ ในซอยหนองบัว 1 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี แบะสามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยไว้ได้ จึงรุดไปตรวจ พร้อมด้วยชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบน.ส.วิไล เครือนาค อายุ 56 ปี เจ้าของร้านชำพร้อมสามี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยควบคุมตัวชายต้องสงสัย คือนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ไว้ได้ เนื่องจากมีพยานจำได้ว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ หลังย้อนกลับมาขอน้ำดื่มและมาเอารถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน 1กช 8854 สกลนคร ที่อ้างว่ามีเพื่อนยืมมาจอดอยู่ที่หน้าร้านขายของชำดังกล่าว
จากการสอบสวนน.ส.วิไล ให้การว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ในร้านได้มีชายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อคเต็มใบและใส่หน้ากากอนามัย สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงกีฬาสีเทา สวมรองเท้าสีน้ำเงิน ขี่รถจยย.คันดังกล่าว มาจอดที่หน้าร้านแล้วเดินเข้ามาข้างใน จากนั้นชักอาวุธมีดปลายแหลมมาจี้ตน พร้อมสั่งให้เอาเงินในลิ้นชักโต๊ะทั้งหมดมาใส่ในกระเป๋าเป้สีดำที่เตรียมมา ตนจึงบอกว่าต้องไปเอากุญแจในร้านมาเปิดลิ้นชัก ระหว่างนั้นสามีตนที่นอนดูทีวีอยู่ในร้านได้ยินเสียง จึงเดินถือรีโมททีวีออกมาด้วย ทำให้คนร้ายคิดว่าเป็นอาวุธจึงรีบวิ่งหนีโดยทิ้งรถจยย.ไว้ที่หน้าร้าน ซึ่งตนสามารถคว้าเอากระเป๋าของคนร้ายไว้ได้
น.ส.วิไล กล่าวต่อว่า ต่อมาได้มีชายวัยรุ่นคือนายเอ เข้ามาที่ร้านของตนเพื่อขอน้ำดื่ม พร้อมกับบอกว่าจะมาเอารถจยย. และกระเป๋าเป้สีดำของคนร้าย ที่ตนยึดเอาไว้ โดยอ้างว่าเพื่อนที่มาก่อเหตุได้ยืมรถจยย.มา ตนจึงบอกให้นายเอ นั่งรอตำรวจก่อน ระหว่างนั้นมีพยานที่เห็นเหตุการณ์จำได้ว่านายเอ มีรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายที่มาก่อเหตุ จึงควบคุมตัวเอาไว้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง
จากการสอบสวนนายเอ ยังคงให้การปฎิเสธ แต่ถูกเจ้าหน้าที่เค้นอย่างหนัก รวมถึงจำนนต่อหลักฐาน จึงยอมรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนติดเกมงอมแงม วันนี้มาเล่นเกมที่ร้านประจำ แต่เงินหมด และอยากเล่นต่อจึงวางแผนเข้าไปก่อเหตุ โดยได้จำวิธีมาจากภาพยนตร์ ในการอำพรางใส่หมวกกันน็อคไม่ให้ผู้เสียหายจดจำใบหน้าได้ หลังหลบหนีก็ได้นำหมวกกันน็อค เสื้อ และมีดไปทิ้ง ก่อนย้อนกลับมาเอารถจยย. และกระเป๋าเป้ โดยทำทีมาขอน้ำดื่มกับผู้เสียหาย และอ้างว่าเพื่อนยืมรถจยย.มาก่อเหตุ ตนคิดว่าผู้เสียหายเป็นคนแก่แล้วจะหลงเชื่อคำพูดของตน กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอ พร้อมของกลาง มาดำเนินคดีตามกฎหมายตามข้อหา พยายามชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไป พ้นจากการจับกุมพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรต่อไป
