ป่าชุมชนบ้านปี้ จ.พะเยา คว้าสุดยอดป่าชุมชนของประเทศ กรมป่าไม้ ระบุมีป่าชุมชนขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้เพิ่มขึ้นเป็น 15,535 ป่าชุมชน คิดเป็นพื้นที่ป่ารวม 7,356,618 ล้านไร่ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนป่าชุมชนให้ถึง 10 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี

ที่ป่าชุมชนบ้านปี้ ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา นางนันทนา บุญยานันต์ ผอ.สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลการประกวดป่าชุมชน ระดับประเทศ ประจำปี 2562 ในโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” โดยดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2551 และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างจิตสำนึกด้วยแนวคิดการปลูกป่าในใจคน และขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้รูปแบบของป่าชุมชน
โดยปีนี้ป่าชุมชนบ้านปี้ จ.พะเยา ได้รับรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ พร้อมรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และป่าชุมชน บ้านแม่ขมิง จ.แพร่ ได้รับรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น ด้าน“ป่าชุมชน: สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรและธรรมชาติ (ทส.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัล
นางนันทนา กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึง 128 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประเทศ โดยป่าชุมชนจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ตามเป้าหมาย เป็นเกราะป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ และช่วยป้องกันไฟป่าและแก้ไขหาปัญหาหมอกควัน เพราะป่าชุมชนมีกระบวนการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน
“ปัจจุบันจำนวนป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้เพิ่มขึ้นเป็น 15,535 ป่าชุมชน คิดเป็นพื้นที่ป่ารวม 7,356,618 ล้านไร่ ทั้งนี้ กรมป่าไม้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนป่าชุมชนให้ถึง 10 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี โดยมั่นใจว่าพื้นที่ป่าชุมชนจำนวนนี้จะคงอยู่ยั่งยืนด้วยพลังของชุมชน และจุดประกายความคิดให้กับชุมชนอื่นๆ เพื่อขยายเครือข่ายป่าชุมชนให้กว้างขวางและแข็งแกร่งต่อไป” นางนันทนา กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้านนายทอน ใจดี ประธานป่าชุมชนบ้านปี้ จ.พะเยา และประธานเครือข่ายป่าชุมชน จ.พะเยา เปิดเผยว่า ป่าชุมชนใน จ.พะเยา มีจำนวน 135 ป่าชุมชน ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากการตระหนักถึงความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้ที่เกิดขึ้น จึงต้องสร้างเครือข่ายและจัดตั้งป่าชุมชนขึ้นในพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาป่าอย่างยั่งยืนและเพิ่มประโยชน์
จุดแข็งป่าชุมชนบ้านปี้คือ การเป็นชุมชนเข้มแข็งและป่าที่มีอุดมสมบูรณ์หลากหลาย กลายเป็นป่าพื้นบ้าน แหล่งอาหารชุมชน และคนได้รับประโยชน์จากป่า ซึ่งมีผลวิจัยระบุว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายชุมชนจำนวนมาก ขณะเดียวกันแหล่งน้ำที่เกิดขึ้น ยังช่วยด้านเกษตรกรรมทั้งการปลูกข้าวและพืชไร่ของชาวบ้านได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน
“ทั้งนี้ รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานครั้งนี้ โดยจะนำมาเป็นสัญญลักษณ์แห่งร่องรอยความทรงจำ ซึ่งอดีตทางป่าชุมชนมีแต่การแผ้วถางและพื้นที่ป่าบุกรุก พร้อมอยากให้เกิดการต่อยอดโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชนต่อไป” นายทอน กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน