ส.ว.ลุย น่าน ฟังปัญหาในพื้นที่ หอการค้าจังหวัด ขอช่วยพัฒนา ด่านห้วยโก๋น
ด่านห้วยโก๋น / วันที่ 9 พ.ย. คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) โดย นายสมชาย หาญหิรัญ รองประธานกรรมการ คนที่ 3 พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ เดินทางลงพื้นที่ จ.น่าน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดน่าน ให้การต้อนรับพร้อมปรึกษาหารือในประเด็นด้านต่างๆ อาทิ
1. ผลการดำเนินการโครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ของจ.น่าน มีการสำรวจตรวจสอบพื้นที่จัดทำข้อมูลพร้อมรายละเอียดชื่อผู้ครอบครองที่ดิน ซึ่งดำเนินการค่อนข้างลำบาก เพราะพื้นที่เป็นภูเขา การคมนาคมไม่สะดวก ประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือเพราะยังไม่เข้าใจนโยบายเรื่องการจัดการที่ดินให้ชุมชนตามนโยบาย คทช.
2.ติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขผังเมืองของ จ.น่าน เพื่อรองรับการพัฒนาและการขยายพื้นที่เศรษฐกิจ โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.น่าน ดำเนินการขอแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินรวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ต่อคณะกรรมการผังเมืองเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
3.การต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน และหัตถกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการขับเคลื่อนและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเงินและผ้าทอเมืองน่าน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของจ.น่าน
4.การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า มีการจัดทำแผนงานเพื่อการแก้ไขปัญหา รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเผาป่า และ5.ด้านการท่องเที่ยว มีแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม
จากนั้น ที่ห้องประชุมเจ้ามหาวงศ์ ศาลากลางจังหวัดน่าน นายสมชาย หาญหิรัญ รองประธานกรรมการ คนที่ 3 รับหนังสือจากนายศรีรุ่ง รัตนศิลา ประธานหอการค้าจังหวัดน่าน กรณีอยากให้มีการพัฒนาศักยภาพในมิติการค้า และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริเวณด่านห้วยโก๋น จ.น่าน ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ด้าน นายสมชาย กล่าวหลังรับหนังสือว่า เรารับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้เชิญผู้ตรวจการของสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมในการประสานงานกับผู้ตรวจของกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในส่วนของวุฒิสภา จะพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจต่อไป
