“แป๊ะเท่ง” สำนึกผิด-ขอตายแทน หลังยิงถล่มดญ.วัย 14 รับแค้นโดนพ่อเหยื่อเตะ
“แป๊ะเท่ง” สำนึกผิด-ขอตายแทน / จากกรณี 5 คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 8 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ทำให้ ด.ญ.ศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี บาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้ว 2 คน คือนายอนุศักดิ์ แดงเดช หรือ “เท่ หรือแป๊ะเท่ง” อายุ 27 ปี และนายวัชระ วรรณมาศ อายุ 26 ปี ขณะที่พ่อของผู้ตายระบุว่า สาเหตุเพราะตยเกิดมีปากเสียงกับนายอนุศักดิ์ เพราะนายอนุศักดิ์เอาขวดน้ำหวานของตนไปเทให้หมากิน จนเกิดชกต่อยกัน
อ่านข่าว พ่อร่ำไห้ เผยปมคนร้ายยิงถล่มลูกสาววัย 14 ดับ แค่ทะเลาะกันเรื่องหมา! ญาติจี้ประหารชีวิต
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 ที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.นครศรีธรรมราช สอบปากคำผู้ต้องหา คดีร่วมกันพยายามฆ่าด.ญ.ศศิประภา ซึ่งยืนยันว่าทีแรกจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน แต่เมื่อสอบเค้นมี 1 คนไม่เกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป ส่วน 2 คนนั้นได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยสาเหตุมาจากทะเลาะกัน หลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขกินน้ำหวาน
สำหรับผู้ต้องหาที่ตำรวจนำหลักฐานไปขอหมายศาลเพื่อออกจับจำนวน 5 คน จับกุมตัวได้แล้ว 2 คน คือนายอนุศักดิ์ แดงเดช หรือ “เท่ หรือแป๊ะเท่ง” อายุ 27 ปี และนายวัชระ วรรณมาศ อายุ 26 ปี ส่วนอีก 3 คน ที่ยังหลบหนีการจับกุมคือนายวัฒนา อนันทขาล อายุ 28 ปี , นายขุนพล เงินเลี่ยม อายุ 25 ปี และนายวิศณุ นาคคง อายุ 27 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลออกไล่ล่ามาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่เจอตัว แต่ตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ระบุว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาวุธปืน ซึ่งก่อนจะไปก่อเหตุได้เสพยาเสพติดกันก่อน ส่วนสาเหตุนายอนุศักดิ์ฯ เจ็บแค้นที่ถูกนายวิชัยฯ พ่อของเด็กดุด่าและเตะ 1 ที หลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขกินน้ำหวาน จึงไปขอยืมปืนของนายวัฒนาฯ เพื่อจะไปยิงบ้านนายวิชัยฯ จึงอาสาและชักชวนเพื่อนได้ 5 คนไปก่อเหตุ จากเรื่องไม่เป็นเรื่องมาก่อเหตุกันได้เช่นนี้ ก่อนจับได้ 2 หลบหนีไป 3
นายอนุศักดิ์ หรือเท่ห์ หรือแป๊ะเท่ ผู้ต้องหาที่เป็นต้นเรื่อง ยอมรับสารภาพจนหมดเปลือก ว่า เจตนาคือต้องการไปยิงบ้านนายวิชัย เพื่อข่มขู่ เพราะแค้นที่ถูกเตะเท่านั้น ไม่ได้หวังให้กระสุนปืนไปถูกใคร
แต่พอไปถึง กลับคุมสถานการณ์ไม่ได้ ต่างคนต่างสาดกระสุนใส่ทั้งบ้านและรถยนต์ อะไรที่ขวางหน้ายิงหมด กระทั่งตนเองมาถูกจับกุมก่อนเพื่อน ส่วนนายวัชระ เป็นคนชี้บ้านของนายวิชัย ให้ยิงถล่มกัน ถูกจับในวันต่อมา
“ผมพร้อมที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่หวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัย อาจถูกญาติของผู้เสียหายทำร้าย ถ้าตายเลยนั้นจบไป แต่ถ้าไม่ตายพิกลพิการจะกลายเป็นภาระของแม่ที่อยู่ข้างหลัง”
“เรื่องทั้งหมดลุกลามบานปลายไปขนาดนี้ ทำให้เสียใจมาก และอยากขอโทษกับทุกคน แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นไปได้ขอตายแทนด.ญ.ศศิประภา และพร้อมแลกชีวิตให้เขามีชีวิตอยู่ต่อแล้วให้ผมตายแทน” นายอนุศักดิ์ฯ กล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายอนุศักดิ์ และนายวัชระ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเพื่อไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังโดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว
อย่างไรก็ตาม นางทัดดาว ยี่สุ่นแซม มารดาของ ด.ญ.ศศิประภาได้เข้าร่วมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ด้วย ส่วนคนร้ายอีก 3 คนที่ยังหลบหนีอยู่นั้น พล.ต.ต.สนธิชัยฯ ได้สั่งการให้เร่งออกไล่ล่าติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
