กกล.รส.ขอนแก่น บุกทลายบ่อนย่านชานเมืองขอนแก่น รวบ 10 นักพนัน พร้อมของกลางเงินสด-อุปกรณ์การเล่นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้งนักพนันบอกเช่าบ้านนี้ไว้ 2 อาทิตย์เพื่อเล่นพนันอย่างเดียว เปิดเล่นทั้งวันคืน 24 ชม. จากนั้นก็หมุนเวียนไปเรื่อย เพื่อป้องกันการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 เม.ย. พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ.23, พ.ต.ท.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น และพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฎิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ขอนแก่น) สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย รวมกว่า 20 นาย เข้าทำการตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 21/3 ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ซ.ศรีธาตุ บ.โนนตุ่น ม.9 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังสืบทราบว่าอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนันอย่างบ่อยครั้ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าบริเวณชั้นล่างทำเป็นห้องกระจก มิดชิด ติดแอร์อย่างดี เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ภายในได้ทราบ และขอเข้าทำการตรวจสอบ รวมทั้งการวางกำลังปิดล้อมพื้นที่เอาไว้เพื่อป้องกันการหลบหนี ก่อนที่จะเข้าทำการตรวจสอบพบนักพนันชาย-หญิง ที่กำลังล้องวงเล่นไพ่กัน รวมทั้งหมด 10 คน ก่อนควบคุมตัวและทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งประกอบด้วยเงินสด 14,000 บาท พร้อมโต๊ะขนาดใหญ่ 1 ตัว เก้าอี้พลาสติก 20 ตัว ไพ่ 2 สำรับ รวมทั้งอุปกรณ์การเล่นการพนันอีกเป็นจำนวนมาก
พ.ต.ท.นรวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนัน โดยเปิดให้เล่นพนันตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จึงวางแผนและจัดกำลังผสมร่วม 3 ฝ่าย เข้าทำการตรวจสอบ โดยพบว่ามีการเล่นพนันกันจริง
“การจับกุมครั้งนี้ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ทราบเพียงว่ามีคนมาเช่าไว้ 2 อาทิตย์ เพื่อให้นักพนันเข้าไปใช้สถานที่เล่นการพนัน ซึ่งจะได้สืบสวนหาตัวคนเช่ามารับทราบข้อกล่าวหา จัดให้มีการเล่นการพนันต่อไป ขณะที่การจับกุมครั้งนี้ มีน.ส.สะศิธร ปุระเสทะยัง อายุ 52 ปี รับเป็นเจ้ามือ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน, พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย” พ.ต.ท.นรวัฒน์ กล่าว
รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่อว่า อาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวแม้จะไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่จากการสอบปากคำนักพนันส่วนใหญ่ ยืนยันว่ามีการลักลอบเช่าไว้เพื่อเล่นการพนันเท่านั้นและเล่นกันตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีการเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ที่ติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของคสช. อย่างไรก็ตาม หลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
