หนุ่มหึงโหด ทะเลาะแฟนสาว กลัวไปมีคนใหม่ สลดบีบคอดับคารีสอร์ต

วันที่ 30 พ.ย. ร.ต.อ.อนุภาพ ภูชำนิ รองสว. (สอบสวน) สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เข้าทำการชันสูตรศพ นางสาวภัคจิรา เซี่ยงไหล อายุ 27 ปี ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาลยางตลาด หลังจากคนร้ายถูกฆาตกรรมและมีผู้พบศพภายในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 29 พ.ย. ร.ต.อ.อนุภาพ ภูชำนิ รองสว. (สอบสวน) สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และออกตรวจเหตุและชันสูตรศพร่วมกับแพทย์เวร รพ.ยางตลาด และนายชยพล วัชระอุดมกุล อุปนายกสมาคมกู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์ และอาสากู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์

ที่เกิดเหตุอยู่ภายห้องพักของรีสอร์ตดังกล่าว พบศพหญิงอายุ 25-30 ปี ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวภัคจิรา อยู่บนเตียงสภาพนอนหงายสวมเสื้อยีนส์แขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ น้ำลายฟูมปาก มีเลือดออกที่หู บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ ตรวจสอบร่างกายไม่มีบาดแผล คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง

จากการสอบถามพนักงานรีสอร์ตเบื้องต้นทราบว่า ห้องดังกล่าวมีชายกับหญิงมาเปิดห้องพักเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งครบกำหนดเวลาพัก พนักงานได้ไปเคาะประตูเรียก ก็พบศพผู้หญิง ส่วนผู้ชายหายตัวไป

ร.ต.อ.อนุภาพ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวนี้ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา มีนางพิสมัย พิมพะแสง อายุ 53 ปี และนายพงษ์เทพ พิมพะแสง อายุ 28 ปี ลูกชาย เข้ามาขอคำปรึกษา พร้อมระบุว่า นายพงษ์เทพ ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางสาวภัคจิรา ภรรยา เหตุเกิดที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่บ้านโคกสี ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด ซึ่งยังไม่รู้อาการว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

เนื่องจากกลัวความผิด จึงได้มาขอคำปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ทราบว่าก่อนหน้านั้น ได้ไปขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มาแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จะแนะนำมาปรึกษากับพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด ซึ่งเป็นเขตพื้นที่เกิดเหตุ

ร.ต.อ.อนุภาพ กล่าวต่อว่า ระหว่างกำลังพูดคุยกับ นางพิสมัยและนายพงษ์เทพ อยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ก็ได้รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพหญิงนอนเสียชีวิตภายในห้องพักที่รีสอร์ตดังกล่าว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่าผู้เสียชีวิตคือ นางสาวภัคจิรา และสอดคล้องกับทั้งสองคนที่กำลังให้ข้อมูล จึงได้ควบคุมตัว นายพงษ์เทพ ไว้

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพงษ์เทพ ให้การรับสารภาพว่า ตนและนางสาวภัคจิรา อยู่กินฉันสามีภรรยากันมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการแต่งงานและจดทะเบียนสมรส ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะฝ่ายชายหึงหวง กระทั่งฝ่ายหญิงหนีเข้าไปกรุงเทพฯเพื่อหางานทำ และกลับมาที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.

กระทั่งคืนวันเกิดเหตุวันที่ 28 พ.ย. นางสาวภัคจิรา ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน ทำให้นายพงษ์เทพ เกิดความหึงหวงและกลัวว่าภรรยาจะไปมีคนใหม่ จึงตามไปพาตัวมาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตดังกล่าว เพื่อเคลียร์ปัญหากัน ระหว่างการพูดคุยทั้งสองก็ได้มีปากเสียงกันอีก ทำให้ นายพงษ์เทพ ผลักนางสาวภัคจิรา ล้มลงบนที่นอน ก่อนจะใช้มือบีบคออย่างแรงจนแน่นิ่งและเสียชีวิตคามือ

หลังเกิดเหตุ นายพงษ์เทพ ก็ได้นั่งเฝ้าศพ นางสาวภัคจิรา ตลอดทั้งคืนของวันที่ 28 พ.ย. จนมาถึงช่วงเย็นของวันที่ 29 พ.ย. ก่อนพนักงานรีสอร์ตมาพบศพ และ นายพงษ์เทพ ได้ไปบอกแม่ และเข้ามาพบกับตำรวจ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นสาเหตุทำให้ถึงแก่ความตายและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนางพิสมัย เแม่ของนายพงษ์เทพ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. นายพงษ์เทพ มาบอกกับตนว่าทำร้ายร่างกาย นางสาวภัคจิรา ซึ่งเป็นภรรยาม่ายลูกติด 3 คน ซึ่งทั้ง 2 อยู่กินกันมา 3 ปี โดยไม่แต่งงาน และไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันในตัวเมืองกาฬสินธุ์ นายพงษ์เทพ ทำงานเป็น พนักงานที่บริษัทอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ขณะที่ นางสาวภัคจิรา ประกอบอาชีพค้าขาย เนื่องจากนางสาวภัคจิรา หน้าตาดี เป็นแม่ค้า จึงทำให้ นายพงษ์เทพ เกิดอาการหึงหวง และมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ประวัตินายพงษ์เทพ บุตรชาย เคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน และมีอาการบกพร่องทางจิตเวช ใช้ยาเป็นประจำ ระยะหลังมานี้เห็นว่าตัวเองอาการดีแล้วจึงไม่ได้ไปรับยามากิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้อาการกำเริบ เพราะขาดยา จึงลงมือทำร้ายร่างกาย นางสาวภัคจิรา จนเสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน