รวบหนุ่มโจรกรรมรถจยย.ส่งขายนอกประเทศ ตะลึงมีเงินสร้างบ้านราคากว่าล้านบาท

วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมฝ่ายสืบสวนสภ.วารินชำราบ และ สภ.บุณฑริก นำหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีเลขที่ จ.107/2560 ลงวันที่ 11 เม.ย.60 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เข้าจับกุมตัวนายวิเชียร หรือเต๋า ก้อนภูธร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/1 บ้านป่าสน หมู่ 5 ต.โพนงาม อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ขณะเดินอยู่ในหมู่บ้านมาสอบปากคำที่ สภ.วารินชำราบ

สืบเนื่องมาจากที่ผ่านมาเกิดโจรกรรมรถจยย.ตามหอพักหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีนับสิบคดี ทำให้ชุดสืบสวนปราบปรามป้องกันการโจรกรรมของ สภ.วารินชำราบ ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในหอพักมาตรวจสอบ และพบชายต้องสงสัยตรงกับรูปพรรณของนายวิเชียร จึงนำหลักฐานไปขออนุญาตให้ศาลจังหวัดอุบลราชธานีออกหมายจับ ก่อนควบคุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า เป็นผู้ลักรถจักรยานยนต์จริง โดยจะนั่งรถตู้รับจ้างมาจากด่านชายแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร มาลงรถที่อ.วารินชำราบ แล้วตระเวนดูลาดเลาตามหอพัก เมื่อพบรถตามออเดอร์ที่ตลาดมืดใน สปป.ลาว ต้องการ ก็จะขโมยแล้วขี่ไปทางอ.เดชอุดม ก่อนนำรถออกตามช่องทางธรรมชาติที่ อ.บุณฑริก แล้วขายในราคาตั้งแต่ 20,000-40,000 บาท และได้ขโมยไปเพียง 5 คัน ไม่ได้มากถึง 30 คันตามเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าว จึงขอให้การรับสารภาพเป็นบางส่วน

สำหรับวิธีโจรกรรมรถจยย.ตนได้ไปเรียนรู้มาจากในเรือนจำ จ.สุรินทร์ ขณะต้องโทษในคดีลักทรัพย์ โดยเสียค่าเรียนไปในราคา 20,000 บาท หลังจากถูกปล่อยตัวออกจาเรือนจำ จึงมาตระเวนขโมยรถตามบ้านหอพักและบ้านเรือนประชาชนแถวมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิเชียร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระหว่างนั้นได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงชราที่ถูกขโมยรถจยย.ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เข้ามาสอบถามถึงรถจยย. แต่นายวิเชียรอ้างว่าได้ส่งขายไปแล้ว สร้างความเสียใจให้กับเจ้าทุกข์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้จากการสอบสวนยังทราบว่านายวิเชียร ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวลาวอยู่เมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก ได้นำเงินไปสร้างบ้านพักอาศัยอยู่ด้วยกันมูลค่ากว่าล้านบาทด้วยอยู่ที่ สปป.ลาว หลังเสร็จสิ้นการทำแผน จึงควบคุมตัวนายวิเชียร ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป