ป้า-ยาย ขอความช่วยเหลือศูนย์ดำรงธรรมไทรน้อย หลังผิดหวังตีรถจากศรีสะเกษ ไม่ได้พบหน้า(คลิป)

เมื่อเวลา. 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 60 นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 67 ปี ยายของเด็กหญิงฝาแฝด น.ส.ปุณณภัทร พวงเท้า อายุ 43 ปี ป้า และญาติพี่น้องจำนวน 8 คน เดินทาง มาที่บ้านเลขที่. 77/350 ม. 10 ภายใน หมู่บ้านนันทิชา 2 ต.ไทรน้อยอ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่เป็นบ้านของนายสุรชัย พลอยไป ลูกเขย ที่นำตัวหลานฝาแฝดมาอยู่ด้วย ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อที่จะมาเยี่ยมหลาน. 2 คน. คือ ด.ญ.พัทธ์ธีรา พลอยไป และ ด.ญ.พัญณิตา พลอยไป อายุ 7 ปี หลานสาว ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พบว่าประตูบ้านปิดล็อค ไม่มีใครอยู่ สร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มญาติ

นางเสาร์ กล่าวว่า ที่พวกตนเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อที่อยากจะเจอหลานฝาแฝด อยากดูว่าหลานแฝดอยู่กันอย่างไร อยากเห็นหน้า เพราะคิดถึงหลาน แต่ก็ต้องผิดหวัง

ต่อมานางเสาร์และกลุ่มญาติได้เดินทางมาที่ว่าการอำเภอไทรน้อย เพื่อเข้าพบนายสมยศ วิชากร นายอำเภอไทรน้อย เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากนายสมยศ ติดราชการจึงสั่งการให้ นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดฝ่ายศูนย์ธรรม น.ส.เขมรินทร์ นุชมาก ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เป็นตัวแทนในการพูดคุย โดยใช้ห้องประชุมของที่ว่าการอำเภอไทรน้อยเป็นที่เจรจา โดยมีพ.ต.อ.อำนาจ เตียวตระกูล ผกก.สภ.ไทรน้อย ร.ต.เอนก ห้วยศรีจันทร์ หัวหน้าชุด รส. เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดนนทบุรี และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย

น.ส.ปุณณภัทร ป้าของเด็กหญิงฝาแฝด กล่าวว่า ที่พวกตนเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อที่อยากเจอหลานอยากพูดคุยกับพ่อของหลาน และอยากรู้ว่าหลานทั้งสองคนอยู่สบายดี โดยพวกตนอยากจะให้นายสุรชัย นำเอาหลานสาวทั้งสองคนมาอยู่ที่บ้านไม่ต้องหลบไปไหน เรื่องที่ผ่านมาก็ขอให้มันจบไป อยากให้หันหน้าเข้าหากันเพื่ออนาคตของหลาน พวกตนก็ อยากจะให้หลานมีอนาคตที่ดี อยู่อย่างมีความสุข เพราเป็นห่วงหลาน ซึ่งตอนนี้ตนและแม่ก็ไม่สามรถติดต่อหรือพูดคุยกับหลานอยากเห็นหน้าหลาน เรื่องที่ผ่านมาก็ขอให้มันจบไป มาเริ่มต้นใหม่ เพื่ออนาคตของหลาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที ทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนางเสาร์ และญาติ เข้าไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าร่วมในการพูดคุย เพื่อหาข้อสรุป

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ทางกระทรวงก็ยังไม่นิ่งนอนใจ พยายามติดต่อพ่อของเด็กผ่านทางทนายความ เพื่อพูดคุย เพราะตอนนี้ยังมี พรบ.คุ้มครองเด็ก อยู่ ขอเวลาในการดำเนินการ เพราะอย่างไรเราก็ต้องเอาประโยชน์ของเด็กเป็นหลักโดยขณะนี้เราต้องการขอดูเด็กก่อนว่าต้องการอะไร อย่างใดก่อน. ทางเรายังฟันธงอะไรไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรโดยขณะนีทางเราจะดำเนินการตามขั้นตอนก่อนซึ่งยังไม่สามรถเปิดเผยได้