จากกรณีต้นตาลสูง 25 เมตร ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ขณะเกิดลมพายุฤดูร้อน ซัดหักโค่นล้มทับร่างนางนิภาพร อนุ วัย 43 ปี และ นายพิชญ์ อนุ อายุ 23 ปี บุตรชาย สองแม่ลูกช่างถ่ายภาพภายในเต็นท์ชั่วคราวที่กางในวัดเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น มีเสียงร่ำลือสะพัดในโลกโซเชี่ยล เชื่อกันว่าอาจจะเกิดจากความอาถรรพ์ที่ผู้เสียชีวิตทั้งคู่ หลังนำเอารูปปั้นพญานาคที่ญาตินำมาจากคำชะโนด ดินแดนลี้ลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มาบูชาไว้ที่บ้าน

น.ส.ราตรี มีสมพาน วัย 29 ปี สาวกู้ภัยธาตุพนม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุต้นตาลล้มทับนายพิชญ์และนางนิภาพร ตนได้ยินเสียงวิทยุขอความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ จึงไปกู้ร่างนายพิชญ์ ที่บาดเจ็บสาหัสออกจากซากต้นตาล ขณะทำการช่วยเหลือนายพิชญ์ได้จับมือตนไว้แน่น พร้อมกับพูดกับตนทำนองว่า “ข้อยบอกแล้วมันมาเอาข้อยจนได้” จากนั้นตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก กระทั่งนายพิชญ์เสียชีวิตขณะแพทย์ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต ส่วนนางนิภาพร ผู้เป็นมารดาเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล

สาวกู้ภัยวัย 29 ปี ระบุว่า หลังเกิดเหตุได้นำศพสองแม่ลูกไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ บ.ดอนแดง ต.ธาตุพนม บ้านของผู้ตาย กระทั่งมีเสียงร่ำลือในงานศพว่า มีป้าของนายพิชญ์ซึ่งเป็นพี่สาวของมารดาผู้ตาย ได้เดินทางไปที่คำชะโนดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยผู้เป็นป้าคนนี้ร่ำลือกันว่าไปเอารูปปั้นพญานาคจากคำชะโนดมา ต่อมานายพิชญ์ซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกันกับผู้เป็นป้า ได้ขอเอาพญานาคไปขึ้นหิ้งไว้บูชา เชื่อกันว่าน่าจะเกิดอาถรรพ์ที่นายพิชญ์และมารดาผู้ตาย นำรูปปั้นดังกล่าวมาไว้ในบ้านโดยไม่บอกกล่าว แม้ผู้เป็นป้าจะเป็นผู้นำมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม เชื่อกันว่าถ้าผู้ใดครอบครองอาจมีอันเป็นไป

น.ส.ราตรี ระบุด้วยว่า หลังเกิดเหตุมีหลวงปู่รูปหนึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่ามีผู้ไปนำสิ่งของมาจากคำชะโนดหรือไม่ แม้จะไม่ใช่ผู้ตายเป็นคนเอามา ก็ขอให้ผู้ที่นำมารีบเอาไปคืน จากนั้นญาติจึงนำรูปปั้นพญานาคไปฝากเก็บไว้ที่วัดพระธาตุพนมชั่วคราว โดยหลังจากเสร็จงานฌาปนกิจศพสองแม่ลูกที่ป่าช้าเมรุ บ.ดอนแดง ในวันนี้แล้ว หลวงปู่รูปนี้ยังได้แนะนำให้ป้าของนายพิชญ์ รีบนำรูปปั้นไปคืนที่คำชะโนดพร้อมกับขอขมาด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน