สาวกู้ภัย อัดคลิป กินยาฆ่าตัวตาย-เขียนจดหมายพ้อถูกที่ทำงานกลั่นแกล้ง ตัดเงินเดือน ไม่พอค่าใช้จ่ายในครอบครัว เผยท้อมาก ถ้าตายไปคงดี
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิฯของ นครราชสีมา ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ หญิงรายหนึ่ง พยายามกินน้ำยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย พร้อมใช้โทรศัพท์มือถืออัดคลิปขณะจะกินน้ำยา
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยตัดพ้อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งสารพัด ทั้งการตัดเงินเดือน เปลี่ยนแปลงเวลาทำงาน และลดชั่วโมงการทำงาน ซึ่งทำให้รายได้ลดน้อยลง ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว ที่ต้องมีภาระรับผิดชอบหลายอย่าง รวมถึงส่งลูกเรียนหนังสือ ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ทั้งที่ตนเองทำงานที่มูลนิธิฯ มานานกว่า 12 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
สาวกู้ภัย อัดคลิปพ้อชีวิต แฉมูลนิธิฯถูกลั่นแกล้ง
นอกจากนี้ ยังเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ โดยมีใจความว่า “ฉัน (ชื่อนามสกุลผู้ก่อเหตุ) ฉันไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่มูลนิธิแห่งหนึ่ง โดนกลั่นแกล้ง สั่งย้าย โดนคำพูดแรง ๆ ทุกอย่าง ฉันไม่มีกำลังใจเลย ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนช่วยเลย ฉันทำงานที่นี่ 12 ปีแล้ว แล้วฉันมีภาระบ้านต้องส่ง ลูกหลายอย่าง แล้วพวกเค้ามาบีบฉัน ย่นเวลาทำงาน ฉันไปทำงานเมื่อวาน 5 ม.ค. เค้าสั่งลูกน้องที่ทำงานไม่จ่ายค่าแรงฉัน สั่งปิดงานก่อนเวลา ยึดกุญแจโต๊ะทำงานฉัน ฉันท้อมากเหลือเกิน ถ้าฉันตายไปคงดี” พร้อมกับระบุชื่อกรรมการมูลนิธิฯ 5 คน และปิดท้ายด้วยคำว่า “หนูตายจะได้ไม่ไปขวางทางพวกเฮียเนาะ”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายณัฐพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นสามีของ น.ส.สุนันทา (ขอสงวนนามสกุล) ที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 6 ม.ค. หลังจากที่ตนตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมที่จะไปทำงานตามปกติ ก็พบว่าด้านหน้าบ้านเปิดไฟไว้หลายดวง จึงได้ลงไปดู ปรากฏว่าเห็นภรรยากำลังยกขวดน้ำยาล้างห้องน้ำซดไปหลายอึก จึงได้เข้าไปคว้าขวดออกจากปาก และรีบเอามือล้วงคอ เพื่อให้ภรรยาอาเจียนออกมา
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ก็หาไข่ไก่มาป้อนให้ภรรยากิน เพื่อให้อาเจียนล้างน้ำยาออกจากท้องให้หมด ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้แพทย์ระบุว่า พ้นขีดอันตรายแล้ว นับว่าโชคดีที่ตนไปเห็นก่อน ไม่เช่นนั้นภรรยาคงจะกินน้ำยาไปมากกว่านี้ และไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันแน่นอน เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำมีฤทธิ์เป็นพิษซึมไปทั่วร่างกายได้รวดเร็วมาก
“ส่วนสาเหตุของการคิดฆ่าตัวตายครั้งนี้ ผมคาดว่าเกิดจากความเครียดในที่ทำงาน เพราะได้ยินภรรยาบ่นให้ฟังว่า ถูกกรรมการมูลนิธิฯ ในที่ทำงานบีบคั้นหลายอย่าง เช่น ลดเวลาทำงาน เปลี่ยนแปลงเวลาทำงาน ลดค่าแรง และใช้คำพูดที่รุนแรงถึงขั้นว่า ถ้าหากทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาทำงาน นอกจากนี้ ยังจะสั่งย้ายภรรยาไปฝึกงานใหม่ที่สุสาน ทั้งที่ภรรยามีประสบการณ์ทำงานมานานกว่า 12 ปีแล้วก็ตาม” นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า ประกอบกับครอบครัวของตนมีรายได้น้อย ภรรยาต้องส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ช่วงบ่ายทำงานที่มูลนิธิฯ รายได้เดือนละ 9,000 บาท ส่วนตนทำงานที่ร้านประดับยนต์ และมาช่วยมูลนิธิฯเช่นกัน แต่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายส่งลูก 2 คนเรียนหนังสือ ส่งค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ และค่ากินค่าอยู่ในครอบครัว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก เมื่อรายได้ลดน้อยลง และถูกบีบบังคับเช่นนี้ ภรรยาจึงเกิดความเครียด และคิดฆ่าตัวตายดังกล่าว
