เปิดภาพน่าห่วง! แม่น้ำยม แห้งขอดเหมือนทะเลทราย สัญญาณเตือนภัยแล้งรุนแรง ส่งผลกระทบระบบนิเวศน์และเกษตรกรแล้ว ด้าน ผวจ.พิจิตร เรียกประชุมด่วน วางแนวทางความช่วยเหลือ
วันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งหลายอำเภอของ จ.พิจิตร ส่อเค้ารุนแรงไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำยม ที่ไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัด ได้แก่ อ.สามง่าม, อ.โพธิ์ประทับช้าง, อ.บึงนารา และ อ.โพทะเล ความยาว 127 กิโลเมตร ซึ่งแม่น้ำยมที่ลดระดับและแห้งขอดเกือบตลอดลำน้ำ
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยเฉพาะที่บริเวณ ม.3 บ้านวังเทโพ ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนกลางของแม่น้ำยม ปริมาณน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก แห้งจนเห็นผืนทรายในท้องแม่น้ำยม โดยภาพของแม่น้ำยมเมื่อมองบนพื้นราบใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากมองเห็นท้องแม่น้ำที่เป็นผืนทรายเป็นทางยาวตลอดทั้งลำน้ำ โดยเฉพาะช่วงกลางผืนทรายจะร้อนจัดคล้ายกับทะเลทราย ส่งผลกระทบระบบนิเวศน์ในพื้นที่แม่น้ำ โดยเฉพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และเกษตรกรที่ไม่มีน้ำต้นทุนทำการเกษตร
นอกจากนี้ยังพบว่า แหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง และบึง ในพื้นที่ติดเทือกเขาเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย อ.สากเหล็ก, อ.วังทรายพูน, อ.ทับคล้อ, อ.ตะพานหิน และ อ.ดงเจริญ รวมทั้งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม 4 อำเภอ คือ อ.สามง่าม, อ.โพธิ์ประทับช้าง, อ.บึงนาราง และ อ.โพทะเล โดยปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำดังกล่าว ได้ลดระดับลงจนแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ ม.10 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ ระบบน้ำประปาไม่เพียงพอต่อการบริโภคและอุปโภค แนวทางแก้ไขเทศบาลตำบลเขาทราย ได้นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายถังกลางหมู่บ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ พื้นที่ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี พื้นที่ทำนาปรัง 6 หมู่บ้านได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.พิจิตร ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหาแนวทางการช่วยเหลือ และเฝ้าระวังพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมกล่าวว่า จ.พิจิตรได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเช่นเดียวกับทุกจังหวัด ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร โดยเฉพาะการทำนา
นายสิริรัฐ กล่าวต่อว่า ซึ่งจะเสี่ยงผลผลิตเสียหายและขาดทุนได้ ยกเว้นเกษตรกรที่มีน้ำบาดาลในพื้นที่ของตนเอง แต่จังหวัดจะดูแลไม่ให้มีปัญหาเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคโดยเด็ดขาด หากหมู่บ้านใดที่น้ำประปาไม่เพียงพอ ก็ได้เตรียมการทั้งในระดับอำเภอและจังหวัดที่จะต้องช่วยกันแก้ปัญหา
นายสิริรัฐ กล่าวอีกว่า เช่น การสนับสนุนรถแจกจ่ายน้ำ การเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม ส่วนการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ของทั้ง 12 อำเภอ ว่ามีอำเภอใด ตำบลใดบ้างที่มีปัญหาภัยแล้งเข้าหลักเกณฑ์ที่จะประกาศภัยก็จะให้การช่วยเหลือโดยทันที
_________________________________________