ถูกเพื่อนหลอกขายคาถาเสกหนีตร.ก่อนลองของยกเค้าบ้านนายจ้าง สุดท้ายโดนตามรวบ

โจรอ่อนหัดถูกเพื่อนหลอกขายของขลัง และคาถาอ้างใช้หลบหนีตำรวจได้ ก่อนก่อเหตุยกเค้าบ้านนายจ้างขโมยทองคำ-เงินสดแม่เลี้ยงคนไทย ก่อนหลบหนีแต่ไปไม่รอด สุดท้ายถูกตำรวจสืบสวน สภ.พบพระจับได้พร้อมของกลาง ขณะกำลังจะหลบหนีข้ามชายแดน

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท.ปพน โสพัฒน์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.พบพระ จังหวัดตาก รับแจ้งคนร้ายงัดบ้านพักตากอากาศกลางดอยของนายจ้าง ขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ภายในเขตหมู่บ้าน รวมไทยสามัคคี หมู่ที่ 9 ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนพบพระเข้าไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นพักพักกลางชุมชน และพบตัวนางธวัลพร แซ่ซ้ง อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยสีหน้าที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมพาตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเกิดเหตุ โดยตรวจสอบพบว่าคนร้ายงัดห้องนอนของเจ้าของบ้าน ก่อนขโมยเอาทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหลายเส้น และเงินสดที่เก็บไว้ภายในตู้ห้องนอน ถูกคนร้ายขโมยไปจนหมด

ขณะเดียวกันตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.พบพระ เร่งทำการสืบสวน ซึ่งคาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นลูกจ้างต่างด้าวเป็นคนก่อเหตุอย่างแน่นอน เนื่องจากลูกจ้างรายนี้หายตัวไปหลังเกิดเหตุ ตำรวจจึงรีบนำกำลังไปเฝ้าซุ่มจับกุมตัวคนร้ายที่บริเวณแนวตะเข็บชายแดน จนในเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ตำรวจชุดสืบสวนพบพระ จึงสามารถควบคุมและจับกุมตัวนายอะเลย หรือ ดำริมเมย อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายต่างด้าวได้ พร้อมของกลางทั้งหมด ที่เพิ่งก่อเหตุยกเค้าบ้านนายจ้างมาแบบสดๆร้อนๆ คาชายแดนฝั่งอำเภอพบพระ ก่อนจะนำตัวคนร้ายไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรพบพระ

หลังเกิดเหตุนางธวัลพร ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงและเจ้าของทรัพย์สิน เดินทางมาดูตัวคนร้ายพร้อมยืนยันว่า ของกลางที่สามารถตรวจยึดมาทั้งหมดเป็นของตนเอง นางธวัลพร กล่าวว่า ตนได้รับคนร้ายรายนี้มาทำงานที่บ้านได้เพียงสองเดือน เนื่องจากคนร้ายทำทีมาขอทำงาน ตนสงสารเห็นว่ายากจน จึงให้เข้ามาทำงานในบ้าน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเนรคุณ ก่อเหตุหักหลังตนซึ่งเป็นคนดูแลเลี้ยงดูอย่างดีตลอดสองเดือนที่ผ่านมา

เบื้องต้นนายอะเลย ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างจริง โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้รับการชักชวนให้ก่อเหตุ โดยมีเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ มอบของขลังและคาถาอาคมโดยมีค่ายกครูเพียง 199 บาท โดยเพื่อนอ้างว่าของขลังและคาถาอาคมนี้ จะสามารถหลบหลีกได้ทุกที่ แม้กระทั่งตำรวจก็ไม่สามารถจับตัวได้ ซึ่งตนก็หลงเชื่อพกของขลังและท่องคาถาก่อนลงมือแอบงัดห้องพักของนายจ้างซึ่งไม่อยู่บ้าน

ก่อนจะเข้าไปขโมยเอาทรัพย์สินของมีค่าไปเกือบหมดบ้าน และหลังเกิดเหตุหลบหนีมุ่งหน้าไปที่แนวชายแดน และท่องคาถาที่เพื่อนให้มาตลอดทางที่หลบหนี แต่คาถาไม่ขลังจริง ถูกตำรวจมารอดักจับได้ขณะหลบหนี พร้อมของกลางทั้งหมดที่ยังไม่ได้ใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวนายอะเลย คนร้ายของขลังแต่ไม่ขลังจริง แต่ถูกจับขังในห้องขังแทน นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป