เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นสองตาหลานจูงแขนกันเดินไปมา อยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์อยู่พักใหญ่ โดยคุณตามีท่าทางร้อนรนและสีหน้าทุกข์ใจ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามจึงทราบว่าคุณตาคนดังกล่าวชื่อนายแผน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์

201610041701391-20041019172247

คุณตาแผนเล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้าได้นั่งรถเมล์ออกมาจากบ้าน เพื่อจะพาด.ญ.อริสา หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวซึ่งพิการพูดไม่ได้มาตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แต่พอลงจากรถเมย์จะเดินเข้าโรงพยาบาลก็ล้วงหากระเป๋าสตางค์สีดำ ซึ่งใส่ไว้กระเป๋าเสื้อไม่เจอคาดว่าน่าจะหล่นหายโดยไม่รู้ตัว โดยในกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวมีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท

“เงินทั้งหมด ตาได้เก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตัวเอง และภรรยา รวมถึงเงินเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียนอีกเดือนละ 3,000 บาท พร้อมบัตรประจำประชาชนของตาและภรรยา บัตรคนพิการของหลานก็หายไปด้วย จึงได้พาหลานสาวเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักให้ช่วยประกาศตามหากระเป๋าตางค์ที่หล่นหาย”คุณตาแผนกล่าว

201610041701485-20041019172247

คุณตาแผนยังกล่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้เก็บสะสมมานานกว่า 1 ปีแล้ว เพื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นหรือฉุกเฉิน แต่ก็มาหล่นหายโดยไม่รู้ตัว จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่เก็บกระเป๋าตางค์ได้เห็นใจนำมาส่งคืน เพราะเป็นเงินก้อนเดียวที่เหลือติดบ้าน และไม่รู้ว่ากว่าจะครบรอบรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการของหลานสาวก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนใช้จ่ายที่สำคัญต้องดูแลหลานสาวพิการด้วย หากผู้ที่เก็บได้นำมาส่งคืนตนก็พร้อมจะมอบเงินจำนวน 2,000 บาทเป็นสินน้ำใจให้ด้วย

ด้วยความสงสารและเห็นใจคุณตากับหลานสาว ผู้สื่อข่าวและประชาชนที่ผ่านมาเจอ จึงได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่ารถให้คุณตา พาหลานสาวเดินทางกลับบ้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน