โจรบุกเดี่ยว จี้ชิงทอง-พระเลี่ยมทอง คุณตาวัย 77 ปี กลางตลาดดังภูเก็ต เล่านาทีสู้ระทึก ก่อนสร้อยขาดจากคอ เผยคนร้ายใช้ไขควงเป็นอาวุธ

เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 13 ม.ค. ร.ต.ท.ธปพน แพงพิมพ์โล้ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองของประชาชน บริเวณหน้าปากซอยนิมิตร 1 ใกล้ตลาดเกษตร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมสายตรวจ และชุดสืบสวน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ตำรวจเข้าตรวจสอบเหตุคนร้าย จี้ชิงทอง คุฯตาวัย 77 ปี

ตำรวจเข้าตรวจสอบเหตุคนร้าย จี้ชิงทอง คุฯตาวัย 77 ปี

ที่เกิดเหตุอยู่หน้าปากซอยกลางชุมชนและใกล้ตลาดสดที่มีคนเดินพลุกพล่าน พบ นายสถิตย์ พงศ์ธนาพาณิช อายุ 77 ปี ผู้เสียหาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียบ กท335 ภูเก็ต โดยประตูรถด้านคนขับเปิดอ้าอยู่ ที่พื้นถนนใกล้รถคันดังกล่าว พบไขควงด้ามสีฟ้า 1 อันและรองเท้าแตะแบบหนีบสีฟ้า 1 ข้าง

จากการสอบถาม นายสถิตย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้จอดรถเก๋งไว้ที่หน้าปากซอยตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้น ได้เดินไปซื้อของที่ตลาดสดที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดินกลับมาถึงรถ ได้เปิดประตูรถด้านหลังคนขับ เพื่อเก็บของที่ซื้อมา พร้อมกับเปิดประตูฝั่งคนขับและปิดประตู จู่ ๆ มีชายฉกรรจ์ 1 คน แต่งกายชุดดำ เปิดประตูฝั่งคนนั่งพร้อมกับเข้ามานั่งที่เบาะ และพยายามจะล็อคคอตนพร้อมกับบังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมหลวงพ่อแช่มรุ่น 1 เลี่ยมทองหนัก 1 บาท จนมีการต่อสู้กันขึ้น

ไขควงอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

ไขควงอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนสะบัดมือคนร้ายได้ จึงวิ่งมาเปิดประตูด้านที่คนร้ายนั่ง เพื่อกระชากตัวคนร้ายออกมาและพยายามจะจับตัว แต่ได้มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันที่พื้นถนน โดยคนร้ายพยายามกระชากสร้อยคอทองคำ แต่ไม่ขาด ขณะเดียวกันตะขอสร้อยเกิดอ้า จากแรงกระชากของคนร้าย ทำให้สร้อยและพระตกลงที่พื้นถนน คนร้ายได้คว้าไป

นายสถิตย์ กล่าวอีกว่า โดยคนร้ายได้ใช้ไขควงแทงเข้าที่มือขวาของตน ก่อนวิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก จำสีและทะเบียบไม่ได้ ขับหลบหนีไปทางวงเวียนม้าน้ำ โดยได้สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ราคาราว 1 แสนบาท พร้อมพระเครื่องหลวงพ่อแช่มรุ่น 1 เลี่ยมทองคำหนัก 1 บาท ประเมินค่าไม่ได้ไป

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน