คาดฝีมือ ‘ซอและ มะเซ็ง’ ขว้างไปป์บอมบ์ บึ้มฐาน อส.พลีชีพ ฉกปืน 5 กระบอก เร่งล่าตัว คาดตอบโต้ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จากแผนยุทธการกดดันจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อ.สุคิริน

บึ้มฐาน / จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงคราม และ M 79 โจมตีฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร บริเวณ บ้านไอดีแย ม.3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อ12 ม.ค.2563 เวลาประมาณ 11.50 น. ขณะเจ้าหน้าที่ จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในฐานปฏิบัติการ จนเกิดการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ อส.อนุวัต กอเดร์ อายุ 34 ปี และได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลสุคิริน จำนวน 5 ราย โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จำนวน 2 ราย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ม.ค. จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้เเละทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้ลักลอบแฝงตัวเข้ามาทางด้านหลังของฐาน ด้วยการใช้ไม้พาดข้ามลวดหีบเพลง

บุกเข้าโจมตีฐานเปิดฉากด้วยการขว้างระเบิดแสวงเครื่องผลิตเอง แบบไปป์บอมบ์ ไปที่บริเวณที่พักของอส. พร้อมเข้าชาร์จด้วยการใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามที่ต่างๆในฐาน ทำให้กำลัง อส.ต้องถอยร่นหาที่กำบังมาที่ อาคารบก.ร้อย ซึ่งห่างจากที่พักของ อส.ประมาณ 50 เมตร ก่อนที่จะเปิดฉากยิงปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ นาน 40 นาที แล้วกลุ่มคนร้ายได้ถอยร่นพร้อมทั้งได้พังประตูที่พักของ อส.แล้วได้ขโมยอาวุธปืนเอ็ม.16 เอ.1 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนเอชเค 33 จำนวน 3 กระบอก และอาวุธปืนพกยี่ห้อชิกซาวเออร์ จำนวน 1 กระบอก รวมทั้งสิ้น 5 กระบอก หลบหนีไปทางด้านหลังของ ฐาน ชคต.

ทั้งนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบสมาชิกเอกอนุวัฒน์ เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบระเบิดแสวงเครื่องผลิตเอง แบบไปป์บอมบ์ ตกอยู่ตามที่ต่างๆภายในฐาน ชคต.จำนวน 12 ลูก แต่ระเบิดทำงานเพียง 2 ลูกเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 10 ลูก เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้และนำไปทำลาย

ส่วนการตรวจสอบถนนริมถนนบ้านจีจา ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านไอดีแย ม.3 ต.ร่มไทร ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด นายณรงค์ชัย ปลัดป้องกัน อ.สุคิริน และ พ.ต.เกรียงไกร นายทหารยุทธการกรมทหารพรานที่ 11 และพวก ที่นั่งรถยนต์ 6 คัน เข้าสนับสนุนให้การช่วยเหลือคนร้ายบุกโจมตีฐาน ชคต. ได้ถูกคนร้ายอีกกลุ่มจุดชนวนระเบิดดักสังหาร พร้อมทั้งขว้างระเบิดแสวงเครื่องผลิตเอง แบบไปป์บอมบ์ และใช้อาวุธปืนยิงซ้ำใส่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งจุดดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่พบว่า ระเบิดเครื่องที่คนร้ายจุดชนวนเพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ คนร้ายได้ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 25 กก. จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร และพบระเบิดแสวงเครื่องผลิตเอง แบบไปป์บอมบ์ จำนวน 5 ลูก ทำงานเพียง 2 ลูก ส่วนที่เหลืออีก 3 ลูก เจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้และนำไปทำลาย

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้ร่วมสนธิกำลังกันติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ที่หลบหนีไปทางด้านหลังของ ฐาน ชคต. ซึ่งมีรอยเลือดของกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งตกอยู่ตามรายทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยเลือดของคนร้าย และไปพบกับกลุ่มคนร้ายที่ซุ่มยิงในป่าข้างฐาน ชคต.ซึ่งเป็นเนินเขา ซึ่งห่างจากฐาน ชคต.ประมาณ 50 เมตร ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกับอีกระลอกนาน 20 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่พบศพ นายอับดุลฮาดี อาบูดาโอ๊ะ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการ มีหมายป.วิ อาญา จำนวน 2 หมาย ของสภ.ระแงะ

โดยคาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่ม นายซอและ มะเซ็ง แกนนำระดับปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน และ อ.จะแนะ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิ อาญา และอาจจะเป็นการตอบโต้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จากการเปิดแผนยุทธการกดดันจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ป่าเขาบริเวณ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียงในห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงเคลื่อนไหวอยู่บนเทือกเขารอยต่อของ 3 อำเภอ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นอาสารักษาดินแดน ปฏิบัติหน้าที่ฐาน ชคต.ร่มไทร ซึ่งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก 2 นาย ประกอบด้วย อส.ซาบรี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัว และ อส.มนัส ถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้าและมีสะเก็ดระเบิดเข้าตาทั้ง 2 ข้าง และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุคิริน 5 นาย ซึ่งมีอาการแน่นหน้าอกจากแรงกระแทก ประกอบด้วย ซอลาวาดี, อส.ธราเทพ, อส.อนัส, อส.สุกิฟลี และอส. อัลลาฟีซ์ อารง

ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอย่าขึ้นไปในพื้นที่ดังกล่าว หากมีเหตุจำเป็นขอให้ประสานกับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หรือหากพบเห็นเบาะแสผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือเบอร์สายตรงท่านแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 ได้ตลอด 24 ชม. รับรองข้อมูลของท่านจะถูกปิดเป็นความลับอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน