หนุ่มฮังการี ดับคาห้องขังสนามบิน 8 ชั่วโมงเพิ่งรู้ว่าตาย เผยถูกจับหลังอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่มีอาการใดๆ บ่งบอกขณะอยู่ในห้องขัง ชี้ป่วยเบาหวาน ผกก.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคนเข้าเวร

ดับคาห้องขังสนามบิน วันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ต้องขังชาวต่างชาติเสียชีวิตขณะถูกควบคุมอยู่ภายในห้องขังภายใน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ภายใน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบเจ้าหน้าที่และปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางพลี แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลบางพลี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง กำลังร่วมกันตรวจสอบสภาพศพของชายชาวฮังการี อายุ 60 ปี ที่นอนเสียชีวิตในห้องขังของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า ชั้นที่ 1 ฝั่งตะวันออก ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากการตรวจสอบสภาพศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตตกเป็นผู้ต้องหาในคดีต่างชาติพักอาศัยในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับกุมตัวดำเนินคดีและนำตัวมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรอดำเนินคดีและส่งตัวกลับประเทศ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ระหว่างรอสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไทยอยู่ในห้องขังนั้น ผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีอาการหรือสิ่งอื่นใดผิดแปลกไปจากการควบคุมตัวเหมือนกับผู้ต้องหารายอื่นๆ โดยมีการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตามปกติ จนช่วงกลางดึกเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ต้องหาได้นอนพักผ่อนจนหลับไป ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมาช่วงสายของวันนี้กลับไม่ตื่นขึ้นมา จึงเข้าไปตรวจสอบจึงพบว่านอนเสียชีวิตตัวแข็งแล้ว ก่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ามีโรคประจำตัวคือเบาหวาน

ด้าน พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นในส่วนของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานแจ้งเรื่องไปยังสถานทูตอังการีประจำประเทศไทยเพื่อติดต่อญาติให้ทราบ โดยจะส่งร่างไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุที่โรงพยาบาลรามาบางพลี หรือสถาบันจักกรีนฤบดินทร สมุทรปราการ ในส่วนระเบียบของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเรียกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรในขณะที่ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน