ชาวบ้านแฉเล่ห์ นายทุนเงินกู้ หลอกเซ็นกระดาษเปล่า ถูกยึดบ้านที่ดินกว่า 30 ราย

นายทุนเงินกู้ / เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ บ้านนิคมห้วยคล้า 1 หมู่ 11 ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนิพนธ์ ชื่นตา ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงมหาดไทย

เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ได้นำเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบแล้วถูกยึดบ้านยึดที่ดินและถูกฟ้องขับไล่ให้ออกจากบ้านของตนเอง
โดยมีกลุ่มชาวบ้านนิคมห้วยคล้า 1 และหมู่บ้านใกล้เคียง กว่า 30 ราย นำเอาหลักฐานการจำนองที่ดินรวมทั้งเอกสารที่ถูกฟ้องร้องมาขอร้องขอความเป็นธรรม

ทั้งนี้หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2549 ตนนำที่ดินเนื้อที่ 1 งาน 6 ตารางวา ไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ในราคา 50,000 บาท และได้ทำสัญญาจำนองที่สำนักงานที่ดิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายทุนได้นำเอาใบสัญญาซื้อขายและหนังสือมอบอำนาจซึ่งยังไม่ได้เขียนข้อความอะไรมาให้ตนเซ็นชื่อ

นายทุนบอกว่า ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ได้อยากได้ที่ดินของตน แค่ทำไว้เฉยๆ ตนหลงเชื่อเซ็นชื่อให้ไป ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. 2549 นายทุนได้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเองไปเป็นของนายทุน ซึ่งเวลาห่างจากการจำนองเพียงเดือนเดียวเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ตนส่งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่เดือนละ 1,500 บาท, 2,000 บาทและ 2,500 บาท หรือบางเดือนส่งเงินให้เป็นจำนวน 10,000 บาท ต่อมาปลายปี 2557 ตนได้รับหมายศาลฟ้องขับไล่ที่ ตนจึงได้รู้ว่า ที่ดินของตนเองได้ถูกนายทุนโอนกรรมสิทธิ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกรมบังคับคดีได้ออกหนังสือขับไล่ให้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดิน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่ออ่านดูในสัญญาซื้อขายที่ทำขึ้นมานั้นระบุว่า ขายเฉพาะที่ดินไม่รวมสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ ตนจึงขนย้ายบ้านออกจากที่ดินของตน มาขออาศัยที่ดินของพี่ชายอยู่ซึ่งแปลงติดกัน และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ไว้เป็นหลักฐานด้วย ว่าตนได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินแล้ว

ต่อมาประมาณ 3 เดือนมีหมายศาลมาอีก โดยฟ้องตนว่าได้ทำการโยกย้ายบ้านซึ่งเป็นทรัพย์สินของนายทุนออกไป ทำให้เกิดความเสียหาย และหลักฐานการฟ้องคือสัญญาซื้อขาย ลงวันที่ 21 มี.ค. 2549 เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาทเช่นกัน ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เขาโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินไปเป็นของนายทุน จึงได้มีการเจรจายอมความกัน

โดยนายทุนเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 180,000 บาท และให้ชำระภายใน 18 เดือน โดยให้ชำระขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป ตนจึงได้นำเงินไปชำระที่ศาล จ.ศรีสะเกษ เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 18 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท

แต่หลังจากนั้นอีก 2 เดือนก็มีหมายศาลมาอีก โดยฟ้องให้ตนชำระเงินค่าเสียหายส่วนที่เหลืออีกจำนวน 90,000 บาท ภายในเวลา 15 วัน ซึ่งตนได้ไปโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของนายทุนให้จนครบ 90,000 บาท และได้ไปตกลงกันที่กองบังคับคดีและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน คดีเป็นอันจบ แต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ตนยังไม่ได้รับคืนแต่อย่างใด

ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ตนมีเพียงแปลงเดียวเท่านั้น ไม่มีที่ทำกินอื่นๆ เลย ทุกวันนี้ตนต้องขออาศัยที่ดินของพี่ชายอยู่อาศัย ซึ่งข้อสังเกตคือ หากมีการซื้อขายกันจริง ทำไมตนจึงต้องไปทำจำนอง และถ้าขายบ้านและโอนที่ดินในวันเดียวกัน สำนักงานที่ดิน จ.ศรีสะเกษ ก็จะต้องบันทึกไว้ว่า ขายบ้านพร้อมที่ดิน และถ้ามีการขายที่ดินจริง เหตุใดตนจึงต้องนำเงินมาจ่ายตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2557 เป็นเวลา 8 – 9 ปี โดยที่ไม่รู้เรื่องเลยว่า มีการโอนเอาบ้านและที่ดินของตนไปแล้ว

ที่ผ่านมาเคยร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายแห่งแล้ว แต่ว่าเรื่องเงียบหายไป ดังนั้นตนและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกโกงที่ดินจากนายทุนคนเดียวกันนี้กว่า 30 ราย จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากตัวแทนของ รมว.มหาดไทยในครั้งนี้ เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือตนกับพวกชาวบ้านโดยด่วนด้วย

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบเอกสารการร้องทุกข์ของพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วพบว่า หลักฐานเอกสารทางกฎหมายที่นายทุนทำไว้รัดกุมมาก วิธีการแก้ไขเรื่องนี้จะต้องใช้วิธีการทางปกครองเท่านั้น

แนวทางการให้ความช่วยเหลือนั้น ประการแรก ตนจะนำเรื่องนี้ไปพบกับนายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ลูกบ้านของท่านได้รับความเดือดร้อนจะได้หาแนวทางในการช่วยเหลือชาวบ้าน
ประการที่ 2 ตนจะรายงานเรื่องนี้ให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบ เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยหากว่า กำลังเจ้าหน้าที่ของทาง จ.ศรีสะเกษไม่เพียงพอก็จะได้ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อเร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ต่อไป

เรื่องนี้ตนมั่นใจว่า โดยการอำนวยการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะสามารถให้การช่วยเหลือชาวบ้าน จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้ได้อย่างแน่นอน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน