ผงะเต่าล้นบ่อวัด! กรมอุทยานลุยตรวจเจอสภาพแออัดยัดเยียด จ่อเอาผิดญาติโยมจับมาปล่อย

วันที่ 29 ม.ค. เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ได้เข้าตรวจสอบเต่าจำนวนมากอยู่อย่างแออัดยัดเยียด ภายในบ่อน้ำวัด หลังมีผู้ร้องเรียนมให้เข้าตรวจสอบ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยเรื่องนี้ เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ ระบุว่า ชุดเหยี่ยวดง ลงพื้นที่วัดต้นสน จังหวัดอ่างทอง หลังมีผู้ร้องเรียนพบเต่าจำนวนมาก ด้านผู้ช่วยเจ้าอาวาสแจ้งมีประชาชนนำมาปล่อย

29 ม.ค. 63 เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง และตำรวจ กก.2 บก.ปทส. ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีพลเมืองดีแจ้งผ่านสายด่วน 1362 พบสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่อย่างแออัดยัดเยียด สถานที่ไม่เหมาะสม บริเวณวัดต้นสน ถนนเทศบาล 10 ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง

จากการตรวจสอบพบพระอุดร มะลิพวง ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดต้นสน เป็นผู้นำตรวจสถานที่อนุบาลสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบริเวณวัดดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ่อ สร้างด้วยปูนซีเมนต์ปูด้วยแผ่นกระเบื้องเซรามิค และมีน้ำขังอยู่ภายในจำนวน 2 บ่อ พื้นที่ด้านบนเป็นที่สูงไม่มีน้ำขัง จำนวน 2 บ่อ ภายในบ่อพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดเต่า จำนวน 3 ชนิด รวม 563 ตัว ได้แก่ เต่าบัว จำนวน 369 ตัว เต่าหวาย จำนวน 158 ตัว และเต่าหับ จำนวน 36 ตัว

พระอุดร ให้ถ้อยคำว่า วัดต้นสน เป็นเขตอภัยทาน ประชาชนมักนำสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทเต่าชนิดต่างๆ มาปล่อยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง ส่วนใหญ่เป็นที่นา หรือแปลงเกษตร มีเต่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติจำนวนมาก ทำให้ประชาชนพบเห็นเต่าเดินข้ามถนนอยู่เป็นประจำ จึงนำเต่าดังกล่าวมาปล่อยภายในวัดต้นสนอย่างต่อเนื่อง วัดต้นสนจึงให้ความอนุเคราะห์ ในการดูแลอนุบาลสัตว์ป่าดังกล่าว เป็นการชั่วคราวโดยไม่ทราบว่าสัตว์ป่าดังกล่าวเป็นของผู้ใด และทางเจ้าอาวาสวัดต้นสน มีความประสงค์ขอให้ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมอบสัตว์ป่าดังกล่าว ไปดูแลเนื่องจากวัดไม่มีภารกิจในการดูแลสัตว์ป่า

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีประชาชนนำสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดเต่าของกลางดังกล่าว เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 112 และมาตรา 116 ไปปล่อยในที่สาธารณะ หรือบริเวณวัดต้นสน ข้างต้น การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15

” ฐาน ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 91 จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “

จึงได้ทำการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางดังกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมอบให้นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นพยาน

สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางจำนวนดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดหาสถานที่อนุบาล คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากพระอุดร ช่วยเหลือในการอนุบาลเป็นการชั่วคราว จนกว่าคณะเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวไปดูแลต่อไป

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน