เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 พ.ค. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุผู้ต้องสงสัยวิ่งราวทรัพย์ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ อยู่บริเวณศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี จึงรายงานให้ พ.ต.ท.โยธินทร์ สิทธิโยธี รอง ผกก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าทำการปิดล้อมจับกุม
โดยมีพลเมืองดีเป็นนักศึกษาระดับปวช. วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี กำลังพยายามไล่จับกุมและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด ทราบชื่อคือนายนิกร ประทุมสุวรรณ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/7 ถ.มุ่งพัฒนา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจค้นในร่างกายพบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นนายนิกร ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์มาจากบริเวณห้างสรรพสินค้าสหไทยพลาซ่า ถนนกาญจนวิถี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร
นายนิกร รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนเดินทางไปดูลาดเลาอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้า จนเห็นเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวมาตามลำพังและสวมสร้อยคอทองคำ จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปใช้อาวุธมีดจี้ ก่อนกระชากสร้อย แต่ปรากฏว่าเหยื่อขัดขืนและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตนตกใจจึงวิ่งหนีออกมาบนถนนและเจอพลเมือง ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นชาย 2 คน จึงแกล้งขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกตามทำร้ายร่างกาย
ด้าน พลเมืองดี ทั้ง 2 ราย คือนายรณกฤต มีพัฒน์ อายุ 17 ปี และนายศุภกร ชูศรี อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับปวช.2 วิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะจอดรถที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร้องตะโกนขอความช่วยเหลือและเห็นผู้ชาย กำลังวิ่งหลบหนีจึงชักชวนกันทำทีขับรถตามคนร้ายไป จนคนร้ายเรียกให้ตนหยุดรถ เพื่อขออาศัยหลบหนี โดยอ้างว่าถูกตามทำร้ายร่างกาย
ตอนนั้นตนกับเพื่อนคิดว่าจะลวงพาคนร้ายไปยังโรงพัก แต่ระหว่างทางคนร้ายกลับขอลงที่คิวรถจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณตลาดเกษตร 1 ก่อนถึงโรงพัก ตนจึงได้ตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ และขับรถติดตามไปคอยแจ้งพิกัดให้ตำรวจทราบ จนตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด
