ผัวเมาหนัก ซ้อมโหดเมีย-ลากไปนอนข้างกองไฟ เช้ามาช็อก! พบเป็นศพสลด ญาติแฉพฤติกรรมสุดเอือม ตำรวจคาดทะเลาะกันเรื่องพูดไม่เข้าหู ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ม.ค. พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านค่าย รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.4 บ้านโค้งขนัน ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ชยพล ดีหลี รองผกก.สภ.บ้านค่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมจุดบ้านค่าย และกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ท่อนไม้ที่คาดว่า ผัวเมาหนัก ใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมสังกะสียกสูงตั้งอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน พบศพ น.ส.สุทิน โหมกขุนทด อายุ 47 ปี สภาพบริเวณใบหน้าและลำตัวมีร่องรอยฟกช้ำนอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นข้างกองไฟ ใกล้กันพบถ้วยจานหม้อไหกระจัดกระจายเกลื่อน รวมถึงขวดสุรา 1 ขวด และท่อนไม้เปื้อนคราบเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
โดยมี นายอัวะ ดีจอหอ อายุ 55 ปี สามีของผู้ตายนั่งรอมอบตัวอยู่ พร้อมให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจริง โดยไม่คิดว่าจะเสียชีวิตในตอนเช้าดังกล่าว
จากการสอสบถาม นางบัวไข รุกไพรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านโค้งขนัน และเป็นญาติของนายอัวะ กล่าวว่า นายอัวะกับน.ส.สุทินเพิ่งอยู่กินกันมา 9 เดือน โดยทั้งสองไม่มีอาชีพที่ชัดเจน และได้ปลูกกระท่อมสังกะสีเล็ก ๆ เพื่อนอนอาศัย เมื่อได้เงินมาก็จะซื้อเหล้าขาวมากินกันทุกวัน พอมีอาการมึนเมาก็จะมีปากเสียงทะเลาะทุบตีกันอยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านระแวกนี้ต่างรู้กันถ้วน
บริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุ
นางบัวไข กล่าวต่อว่า กระทั่งเช้าวันนี้ นายอัวะได้วิ่งมาบอกญาติพี่สาวว่าให้มาดูภรรยาของตนเองหน่อย เนื่องจากพบว่าตัวแข็งไม่กระดุกกระดิกและไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาตรวจสอบ ก็พบว่าเสียชีวิตนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.อานุภาพ กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดการถูกทำร้ายร่างกาย โดยเบื้องต้นนายอัวะได้รับสารภาพว่า เป็นคนทำร้ายร่างกายภรรยาตนเอง เนื่องจากได้ดื่มเหล้าด้วยกันแล้วเกิดอาการมึนเมาพูดไม่เข้าหู ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะลากภรรยามานอนอยู่ข้างกองไฟจนรุ่งเช้า
พ.ต.อ.อานุภาพ กล่าวต่อว่า เมื่อตนเองตื่นมาพบว่าภรรยาตัวแข็ง จึงไปบอกญาติให้มาช่วยดู ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจะได้สอบสวนผู้ต้องหา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานถึงสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้ง
