เรียนดีแต่ยากจน! วอนช่วย น้องทิม สอบติดแพทย์ แต่ไม่มีเงินเรียน-พ่อตาย แม่ติดคุก เผยสอบติดแพทยศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์(ม.อ.) คนแรกของร.ร.ในรอบ 40 ปี แต่บ้านยากจน พ่อตาย-แม่ติดคุก

น้องทิม / เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน มีเด็กนักเรียนชายชั้น ม.6 ชาวจ.ตรัง สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ภายหลังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) จ.สงขลา ประกาศผลเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา สร้างความดีใจให้กับครอบครัวและโรงเรียนซึ่งถือเป็นนักเรียนคนแรกในรอบ 40 ปี แต่ปรากฏว่าครอบครัวเกรงว่าจะมีไม่เงินส่งน้องเรียน เนื่องจากการเรียนคณะแพทยศาสตร์ มีค่าใช้จ่ายสูง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เพจเฟซบุ๊ก อันดามัน ไทม์ – ข่าวเมืองตรัง 10 อำเภอ เปิดเผยเรื่องนี้ว่า จากเด็กโรงเรียนวัดสู่รั้วโรงเรียนสามัคคีศึกษา ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์(ม.อ.) เป็นคนแรกของการก่อตั้งโรงเรียนในรอบเกือบ 40 ปี แต่มีฐานะยากจน วันนี้วอนช่วยเพื่อสานต่อความฝันให้กลับมาเป็นหมอรักษาผู้ป่วยยากจนฟรีที่บ้านเกิด จ.ตรัง

ทั้งนี้ที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 4 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บ้านของ นายดวงเกียรติ ทรัพย์ส่ง (น้องทิม) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 โรงเรียนสามัคคีศึกษา ต.นาวง อ.ห้วยยอด ซึ่งน้องทิมเพิ่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) จ.สงขลา โดยมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความดีใจให้กับครอบครัวของน้องทิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้องทิมเป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาโดยตลอด ตั้งแต่เรียนอยู่โรงเรียนวัดไตรสามัคคี ต.นาวง และเป็นนักเรียนคนแรกของโรงเรียนสามัคคีศึกษาที่สามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ในรอบเกือบ 40 ปี

แม้น้องทิมจะเสียคุณพ่อ ซึ่งเป็นนายหนังตะลุงชื่อดังเมื่อปี 2546 หรือเมื่อน้องทิมอายุ 2 ขวบ ส่วนคุณแม่ยังเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำ จ.ตรัง ทำให้น้องทิมต้องมาอาศัยอยู่กับ นายเปลื้อม ทรัพย์ส่ง วัย 68 ปี น้องชายของคุณปู่ ซึ่งน้องทิมเรียกว่าพ่อ โดยมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา รายได้ไม่เกินวันละ 400 บาท แต่ด้วยความขยันและอดทน ยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อให้มีเงินเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา ทำให้น้องทิมสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

แต่ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญคือฐานะที่ยากจน ทำให้น้องทิมเกิดความเครียด หวั่นว่าจะไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าเล่าเรียนได้ซึ่งต่อปีสูงถึง 4 แสนบาท น้องทิมจึงคิดจะกู้ยืมเงิน กยศ. และหางานทำระหว่างเรียนเพื่อไม่ให้ตกเป็นภาระของใคร โดยตั้งใจจะสานฝันความเป็นหมอของตนตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.4 เพราะเห็นคุณยายป่วยตายด้วยโรคมะเร็งเนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินรักษา และญาติพี่น้องเองที่ป่วยไข้ก็ต้องรักษากันไปตามมีตามเกิด จึงคิดว่าหากเป็นคุณหมอแล้วจะกลับมาเปิดคลินิกเล็ก ๆ ที่บ้านเกิดในอำเภอห้วยยอด จ.ตรังเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยยากไร้ฟรี รวมทั้งคิดค่ารักษาผู้ป่วยรายอื่นๆ ในราคาถูกที่สุด เหมือนคุณหมอตัวอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง

สำหรับน้องทิม เป็นลูกคนที่ 3 (คนสุดท้อง) มีพี่ชาย 1 คน และพี่สาว 1 คน ทำงานรับจ้างทั่วไป ซึ่งวันนี้น้องทิมยังมีความหวังที่จะเห็นแสงสว่างจากผู้มีจิตศรัทธา โดยสามารถบริจาคทุนทรัพย์ช่วยเหลือน้องทิมได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน สาขาเกาะพะงัน ชื่อนายดวงเกียรติ ทรัพย์ส่ง หมายเลขบัญชี 020213938424 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 095-181-3363

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีศึกษากำลังเรียกประชุมศิษย์เก่าเพื่อระดมทุนช่วยเหลือน้องทิมอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่นายเปลื้อม ทรัพย์ส่ง อายุ 68 ปี ผู้ปกครองของน้องทิม กล่าวว่า หลังความดีใจผ่านพ้นไป ความเครียดก็เข้ามาแทนที่ เพราะกังวลเรื่องเงินค่าเล่าเรียนของหลาน แต่ไม่กล้าบอกกับหลานว่าไม่มีเงินส่งให้เรียน ซึ่งค่าเล่าเรียนต่อปีประมาณ 400,000 บาท วันนี้จึงยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อ แต่ก็จะพยายามสู้จนถึงที่สุด

ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก อันดามัน ไทม์ – ข่าวเมืองตรัง 10 อำเภอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน