จับแล้ว ไอ้เข้ยาว 2 เมตร โผล่อาบแดดคลองชลประทาน ชาวบ้านคาดมีมากกว่านี้ คาดเป็นจระเข้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะไม่พบฟาร์มเลี้ยงจระเข้ในแทบนี้
ไอ้เข้ยาว 2 เมตร / จากกรณี นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากนายพงษ์ชัย สงวนศิลป์ สารวัตรกำนันตำบลกบินทร์ ว่ามีชาวบ้านพบจระเข้ขนาดใหญ่นอนอาบแดดอยู่ริมคลองชลประทานบ้านโคกป่าแพง หลังวัดโคกป่าแพง ม. 7 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งรีบรุดตรวจสอบทันที เกรงจระเข้อาจจะทำร้ายชาวบ้านได้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พบคลองชลประทานดังกล่าวมีฝายน้ำล้น และคันดินกลั้นไว้เป็นช่วงๆ ส่วนที่พบจระเข้นั้นมีความยาวประมาณ 100 เมตร กว้าง 10 เมตร น้ำลึกประมาณ 1-2 เมตร นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยจระเข้ที่นอนอยู่อย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2-3 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม ส่วนตรงที่พบจระเข้หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กันมาดู พร้อมนำแหมาดักรอทอด ตอนที่จระเข้โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ จึงทำให้จระเข้ตื่นไม่กล้าโผล่ขึ้นจากน้ำ ล่าสุดครั้งสุดท้ายเห็นจระเข้โผล่ให้เห็นเมื่อเวลา 17.00 น.
ต่อมานายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอกบินทร์ ประสานและขอความช่วยเหลือจากชุด “ไกรทอง” มือปราบจระเข้จากหน่วยป้องกันฯเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สระบุรี มาช่วยปราบ จากนั้นชุดไกรทองได้รีบเดินทางมายังสถานที่พบจระเข้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อมาถึงไม่รอช้าจึงให้ชาวบ้านที่มารอดูห้ามส่องไฟฉาย เกรงว่าจระเข้จะหลบและไม่ขึ้นจากน้ำ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดไกรทองนำไฟส่องบริเวณริมคลองชลประทานเพื่อหาดูดวงตาของจระเข้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ไม่พบ
จากนั้นจึงนำตาข่ายมากั้นระหว่างคลองเพื่อกระชับพื้นที่ให้แคบลง ก่อนที่นำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพร้อมตะแกรงเหล็กที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แหย่ลงในน้ำเพื่อหาจระเข้ว่าหลบอยู่ตรงไหน การไล่ล่าจระเข้ก็เริ่มขึ้นท่ามกลางชาวบ้านรอลุ้นว่าจะเจอจระเข้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองวนหาอยู่ 2 รอบ ไม่พบวี่แววของเจ้าจระเข้แต่อย่างใด สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านยิ่งนัก เพราะตอนพบจระเข้ครั้งสุดท้ายมีชาวบ้านเฝ้าดูว่าจะหลบหนีไปทางไหนได้ การค้นหายังไม่พบจึงยุติการค้นหาเมื่อเวลา 23.00 น.
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดไกรทองมือปราบจระเข้ จากหน่วยป้องกันฯเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สระบุรี ล่าจระเข้ตัวกล่าวอีกครั้ง และพบจระเข้โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ จึงจับด้วยไฟฟ้าก่อนเจ้าจระเข้จะสิ้นฤทธิ์และนำขึ้นจากฝั่ง พบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีขนาดใหญ่ และสามารถกัดและทำร้ายได้ จึงทำให้ชาวบ้านโล่งอกโล่งใจที่จับได้ ส่วนจระเข้ที่เหลือคาดว่าน่าจะอยู่ในป่ายูคาลิปตัส ที่อยู่ข้างคลอง
โดยจระเข้ตัวดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2 เมตร เป็นเพศผู้อายุราว 6-7 ปี น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม
นายอายุวัฒน์ อนุตรอริยกุล ประมงอำเภอกบินทร์บุรี กล่าวว่า จระเข้ที่พบคาดว่าน่าจะเป็นจระเข้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะว่าบริเวณดังกล่าวไม่พบฟาร์มเลี้ยงจระเข้ในแถบนี้ ส่วนฟาร์มที่เลี้ยงก็แข็งแรงดีไม่น่าจะมีจระเข้หลุดออกมา ส่วนจระเข้ที่พบมีความยาวประมาณ 2 เมตร คาดว่าจะมีไม่ต่ำ 2 ตัว จากการสอบถามชาวบ้าน
นายพงษ์ชัย สงวนศิลป์ สารวัตรกำนันตำบลกบินทร์ กล่าวว่า จระเข้ที่พบเห็นมีชาวบ้านขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงเห็นจระเข้นอนอาบแดดอยู่ริมฝั่ง เมื่อเห็นคนก็โดดลงน้ำก่อนที่จะมาแจ้งประมงอำเภอและตนให้ทราบ ส่วนจระเข้ที่พบน่าจะอยู่ในป่ายูคาฯหลังจากมีการปรับพื้นที่ เพื่อจะปลูกยูคาฯใหม่โดยใช้รถแบ๊กโฮปรับที่ จึงไปรบกวนที่จระเข้จึงหนีมาลงคลองชลประทาน คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 ตัว ส่วนคนงานที่ปรับที่บอกว่าเห็นจระเข้ไม่ต่ำกว่า 5 ตัว แต่ละตัวมีขนาดใหญ่
