สาวเปิดใจหลังโดนจับกัญชา 1 ต้น ชาวบ้านลงขันประกันตัว 1 แสน

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.สุดา หรือตูน ศรีนาจนาจา อายุ 32 ปี ชาวต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังจากพบกัญชา 1 ต้น ความสูง 50 ซ.ม. ที่บริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ด้านทิศเหนือหมู่บ้านตะเกียด โดยเจ้าหน้าที่แจ้งความผิด ผลิตและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีการควบคุมตัว ตรวจสอบสารเสพติด(กัญชา)เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย(กัญชา)แต่อย่างใด

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยพบว่าวานนี้(4ก.พ.) หลังจากมีการจับกุม ชาวบ้านและญาติผู้ต้องหา กว่า 40 คน ได้เดินทางไปยัง สภ.เทนมีย์ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจ น.ส.สุดา โดยชาวบ้านเห็นว่าการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะ น.ส.สุดา ปลูกพืชชนิดนี้ไว้เพื่อรักษาโรคของตัวเองที่เป็นทั้งโรคเก๊าท์ ไซนัส และโรคภูมิแพ้ ใช้บำบัดเท่านั้น ด้านชุดจับกุมแจงมีคนแจ้งมาต้องทำตามหน้าที่ โดยชาวบ้านและญาติของ น.ส.สุดา ผู้ต้องหา ได้เดินทางไปทำเรื่องขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ในวงเงิน 1 แสนบาท ต่อไป

นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.สุรินทร์ ก็ได้เข้ามาร่วมรับฟังและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ในกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ ยังไม่มีการปลดล็อกให้ปลูกได้โดยเสรี หากปลูกหรือมีไว้ในครอบครอง ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถจับดำเนินคดีได้ ซึ่งขณะนี้ทางพรรคภูมิใจไทยกำลังเร่งแก้กฎหมายเพื่อให้ ชาวบ้านสามารถปลูกไว้ใช้รักษาโรคต่างๆได้ ไม่เกินครัวเรือนละ 5-6 ต้น แต่ทั้งนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการจับกุม โดยใช้หลักรัฐศาสตร์ร่วมด้วย และไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเป็นข้อบาดหมางระหว่าง ตำรวจกับประชาชนในพื้นที่ สิ่งไหนที่ไม่หนักหนา เกินกว่าเหตุ ก็ให้ใช้ดุลพินิจ ซึ่งหากว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคงจะแค่ว่ากล่าวตักเตือน และถอนต้นทิ้งไป เพราะต้นกัญชาที่พบแค่ต้นเดียว มีความสูงเพียง 50 ซ.ม.เท่านั้น

ล่าสุด น.ส.สุดา หรือตูน เล่าว่า ได้รับการประกันตัวแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่เคยปลูกต้นกัญชามาก่อนเลย เป็นครั้งแรกที่ปลูกเอาเม็ดมาหยอดลงดิน ที่ปลูกไว้เพราะว่า ได้ดูข่าวและทางอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาโรคและอาการป่วย ซึ่งปกติตนเองก็ร่างกายไม่แข็งแรงและป่วยอยู่แล้ว และเป็นไซนัสด้วย ก็อยากหาย อีกทั้งครอบครัวก็ไม่ค่อยมีเงินหาหมอ เลยลองปลูกเพื่อจะนำมารักษาตนเองเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นเลย ตนปลูกต้นเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยปลูกมาก่อน และตนก็ไม่เคยมีประวัติเรื่องยาเสพติด และยังไม่ได้นำมาทำอะไรเลยมาโดนจับก่อน

ในขณะที่ญาติๆที่มาให้กำลังใจ น.ส.สุดา กล่าวว่า เรื่องเช่นนี้ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ก็ไม่ได้ว่าก็ให้เห็นใจกันบ้าง ที่สำคัญเมื่อจับแล้วก็ให้เขาได้ติดต่อญาติหรือแจ้งญาติพี่น้องให้ทราบบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย โทรศัพท์ก็ถูกยืดไว้ ครอบครัวผู้ที่ถูกจับก็หาเช้ากินค่ำ ก็ต้องมาลำบากหากู้ยืมเงินเพื่อมาประกันตัวอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน