ญาติ ผจก.คาร์แคร์ เหยื่อทหารคลั่ง หวั่นเหตุซ้ำรอย วอนสังคมอย่าประณามพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ
จากกรณี จ่าคลั่ง ก่อเหตุสะเทือนใจ ใช้อาวุธปืนกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย และบาดเจ็บหลายคน ก่อนที่จะขับรถออกมายังใจกลางเมืองนครราชสีมา จนมาถึงห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 แล้วใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนบริเวณดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีตำรวจเสียชีวิตด้วย ต่อมาเวลา 09.02 น. วันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรม จ่าคลั่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ล่าสุด วันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศ ที่บ้านบุขี้เหล็กใหม่พัฒนา ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของ นายวันชัย เวชวรรณ์ หรือใหญ่ อายุ 41 ปี หัวหน้าพนักงานคาร์แคร์ ภายในห้างเทอร์มินอล21 จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ที่ถูก จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ก.พ.
โดยมีญาติและเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลัง นางบังอร พิมพ์อุบล อายุ 40 ปี ภรรยาของ นายวันชัย อย่างต่อเนื่อง ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ หลังจากสูญเสียสามีไปแบบกะทันหัน ส่วนศพของนายวันชัย ทางปู่และย่ากำลังเดินทางไปติดต่อรับศพ ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา คาดว่าน่าจะมาถึงในวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้
นางพลอยนารี ยอดเยี่ยม อายุ 44 ปี ญาติของนายวันชัย กล่าวว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโหดร้ายรุนแรงมาก เพราะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 30 ศพ และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาเคยเห็นแต่ในภาพยนตร์และในต่างประเทศ ไม่คิดว่าเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้จะเกิดในประเทศไทย และยิ่งมาเจอกับญาติของตัวเองที่ต้องมาสูญเสียชีวิตทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
“อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวด้วย ทั้งนี้ยังได้เรียกร้องให้ทางต้นสังกัดได้ดูแลบุคลากรกำลังพลและคลังอาวุธให้เข้มงวดรัดกุมมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก และหลังเกิดการณ์ดังกล่าวก็รู้สึกหวาดระแวงไม่กล้าไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งที่มีผู้คนพลุกพล่าน เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย” นางพลอยนารี กล่าว
นางพลอยนารี กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะรุนแรงโหดร้ายมาก แต่ผู้ก่อเหตุก็ได้รับกรรมที่เขาก่อแล้ว จึงไม่รู้จะไปเรียกร้องอะไรกับใคร ทางครอบครัวก็อโหสิกรรมให้ แม้ 1 ชีวิตจะไม่สามารถแลกกับอีกหลายชีวิตที่สูญเสียไปได้ และอยากวิงวอนสังคมอย่าไปประณามพ่อแม่ของทหารที่ก่อเหตุ เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการกระทำของลูก และคงไม่ได้อยากให้ลูกก่อเหตุแบบนี้
