ผู้เสียหาย 14 รายรุดแจ้งความที่สภ.เมืองอุบลราชธานี หลังไปสมัครงานร้านกาแฟทิ้งเอกสารสำคัญไว้ หลังจากนั้นมีใบแจ้งหนี้ว่าให้ไปชำระหนี้สินค้าเงินผ่อนจากการซื้อมือถือยี่ห้อไอโฟนและเป็นผู้ค้ำประกัน ยอดเงินรวมกว่า 560,000 บาท
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี มีผู้เสียหาย 14 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี ว่าไปสมัครงานกับร้านขายกาแฟแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี โดยนำหลักฐานไปสมัครงานซึ่งประกอบด้วย หลักฐานการศึกษา สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน โดยทิ้งเอกสารไว้เพื่อรอการเรียกมาสัมภาษณ์เข้าทำงาน แต่พอผ่านไปประมาณ 5 เดือน กลับได้รับใบแจ้งหนี้จากบริษัท เพื่อติดตามหนี้สินที่ค้างชำระแทน โดยทั้งหมดมีเอกสารใบแจ้งหนี้ที่ส่งไปถึงบ้าน เป็นทั้งผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟนและผู้ค้ำประกัน
น.ส.นิดา อายุ 30 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณช่วงปลายปี 2559 ตนดูในเฟซบุ๊กว่ามีร้านขายกาแฟแห่งหนึ่งอยู่ในตัวเมืองอุบลราชธานี ใกล้กับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประกาศรับสมัครงานเป็นพนักงานร้านกาแฟ จึงได้ไปสมัคร พร้อมนำเอกสารหลักฐานการศึกษา สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ตามที่ทางร้านต้องการไปด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำใบสมัครและเอกสารเก็บไว้ และบอกว่าให้รอเรียกตัวมาสัมภาษณ์เข้าทำงาน
จากนั้นก็มานั่งรอความหวังกับการเรียกสัมภาษณ์ แต่ก็เงียบหายไป โดยไม่มีการติดต่อจากร้านกาแฟดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ก็เข้าใจว่าตนคงจะไม่ได้ทำงาน ต่อมาก็ได้ใบแจ้งหนี้ ว่าตนได้ไปซื้อสิ่งของเงินผ่อนจากบริษัทแห่งหนึ่ง สาขาอุบลราชธานี เป็นยอดเงินจากการซื้อโทรศัพท์ จำนวน 36,000 บาท และเป็นผู้ค้ำประกันยอดเงิน 41,000 บาท เมื่อได้รับใบแจ้งหนี้ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงได้ติดต่อสอบถามไปยังบริษัทดังกล่าว แจ้งว่ามีคนมาซื้อใช้เอกสารเราจริง เมื่อมาตรวจสอบดูย้อนหลังก็พบว่าเป็นเอกสารที่ใช้ในการไปสมัครงานที่ร้านกาแฟไว้ และยังทราบว่ามีผู้เสียหายลักษณะเดียวกันอีก 13 ราย จึงรวมตัวกันมายื่นแจ้งความพร้อมกัน
ด้าน พ.ต.อ.ศิราเมษฐ์ ธานินพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี เชิญผู้เสียหายซึ่งมาทั้งหมด 14 รายมาพบ พร้อมสั่งการให้ตั้งคณะทำงานในการแก้ปัญหาเร่งรัดดำเนินการโดยเร่งด่วน พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมแจ้งให้ผู้เสียหายไม่ต้องกังวลจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับหนังสือติดตามทวงหนี้ของบริษัท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานให้ทางบริษัทได้รับทราบเรื่องเกี่ยวกับหนี้ว่าผู้เสียหายถูกหลอก และให้ชะลอการชำระหนี้ไว้ก่อน ซึ่งเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งรวมผู้เสียหายที่มาแจ้งความในวันนี้จำนวน 14 ราย ยอดเงินทั้งหมดจำนวน 560,000 บาท
ขณะที่ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่าทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกเจ้าของร้านที่เปิดรับสมัครงานมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสาร และจะเชิญผู้จัดการบริษัท สาขาอุบลราชธานี มาพบเพื่อสอบปากคำ กรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้ลงลายมือชื่อในการซื้อและค้ำประกัน แต่มีการจำหน่ายสินค้าออกไปได้อย่างไร น่าจะมีคนของบริษัทร่วมกระทำความผิดด้วย ซึ่งจะต้องสอบสวนอย่างละเอียด
