เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กทารกแรกเกิด ถูกทิ้งไว้ในป่าหญ้าริมถนนสายแม่สอด–อุ้มผาง ช่วงหลักก.ม.ที่ 1 ใกล้สถานีไฟฟ้าย่อยอำเภอแม่สอด หลังรับแจ้งเหตุตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 หน่วยแพทย์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลแม่สอด และหน่วยกู้ชีพมังกรเขตอำเภอแม่สอด เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายหลักลงไปที่ป่าหญ้าริมทาง ใกล้ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างริมถนน โดยในป่าหญ้ารกทึบ เจ้าหน้าที่พบเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง สภาพตัวอ้วนสมบูรณ์แข็งแรง น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม อายุไม่เกิน 10 วัน ส่งเสียงร้องดังลั่นในสภาพถูกฝูงมดแดงรุมกัดไปทั้งตัว มีเพียงเสื้อแขนยาวสีดำสภาพเก่า ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยแบบอนาถา เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยกันนำตัวเด็กทารกไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่รถพยาบาลฉุกเฉิน จนเด็กน้อยทารกหยุดร้องและมีแววตายิ้มอย่างสดใสน่ารัก หลังมีคนใจบุญมาช่วยชีวิตให้รอดราวปาฏิหาริย์
จากการสอบถามน.ส.ฟ้าใส อายุ 17 ปี คนพบทารกคนแรกให้การว่า ขณะเดินผ่านบริเวณถนนที่หญ้าขึ้นรกทึบ ได้ยินเสียงเด็กร้องดังลั่นแบบเจ็บปวดทรมาน จึงสงสัยและออกค้นหาตามเสียงร้อง จนเดินมาถึงป่าหญ้าท้ายร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง ก็ถึงกับตกใจเมื่อพบเด็กทารกแรกเกิดอยู่ในสภาพถูกทิ้งให้ตากแดดร้อนจัด และเด็กกำลังถูกฝูงมดแดงรุมกัดไปทั้งตัว จึงรีบเข้าไปอุ้มเด็กมาและนำมดออกจากตัว ซึ่งรู้สึกหดหู่ที่เจอเหตุการณ์สลดใจแบบนี้ เนื่องจากเคยเห็นแต่ข่าวในทีวี ไม่คิดว่าจะมาพบเจอกับตัวเอง แต่ก็รู้สึกดีใจอีกส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยชีวิตทารกไว้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำเด็กทารกที่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วันรายนี้ ไปดูแลอย่างดีที่โรงพยาบาลแม่สอด ซึ่งล่าสุดมีผู้ทราบข่าวต่างขอติดต่อรับตัวเด็กทารกมาเป็นลูกบุญธรรมแล้วหลายราย ส่วนทางคดี ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด กำลังเร่งสืบสวนหาตัวแม่ของเด็กต่อไป
