จากรณีสื่อสังคมออนไลน์ ได้แชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของ ดร.ปฐมพงศ์ ณ จัมปาศักดิ์ ซึ่งได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงศิลปินแห่งชาติที่ไปวิจารณ์เกี่ยวกับหมอลำซิ่งในยุคใหม่ว่า ทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องโดยไม่ได้คำนึงถึงศิลปวัฒนธรรมและความดีงาม พร้อมกับระบุว่าเป็นเพียงด็อกเตอร์จับสลากมานั้น จนเกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้นมา

ล่าสุดวันที่ 22 พ.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฐมพงศ์ ณ จัมปาศักดิ์ ได้ออกแถลงการณ์ประเด็นดราม่าการเสนอมุมมองเรื่องศิลปะการแสดงหมอลำ ตามข้อเท็จจริงและลำดับเหตุการณ์ดังนี้ 1.ศิลปินหมอลำได้นำเสนอข่าวหัวข้อ “จัดหนักลำซิ่ง-โคโยตี้ แค่หมอลำหูฉลาม”

เมื่อข้าพเจ้าเห็นข่าวออนไลน์ จึงได้แชร์มานำเสนอในมุมมองที่เหมือนและเห็นต่าง ประเด็นโดยสรุป คือ ข้าพเจ้าสนับสนุนหมอลำทั้ง 3 ประเภท โดยมีการโพสต์ทั้งหมด 2 ครั้ง ในเฟซบุ๊กส่วนตัวซึ่งไม่ได้ตั้งค่าสาธารณะ ในวันที่ 14 พ.ค.60 โดยโพสต์ข่าวครั้งที่ 1 “จัดหนักลำซิ่ง-โคโยตี้ แค่หมอลำหูฉลาม” เวลา 15.56 น. ครั้งที่ 2 โพสต์เพลง “ผู้สาวขาเลาะ” คุณลำไย ไหทองคำ เวลา 18.00 น. โดยเฟซบุ๊กส่วนตัวข้าพเจ้านั้น สามารถมองเห็นได้เฉพาะเพื่อนในเฟซบุ๊กเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะ ใต้โพสต์ซึ่งมีการคอมเม้นท์ย่อยของย่อยอีกทีที่เป็นการพิมพ์ระหว่างเพื่อนในเฟซท่านหนึ่ง ได้มีบุคคลที่อยู่ในสถานะเพื่อนในเฟซได้บันทึกภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้านำไปเผยแพร่

2.ศิลปินหมอลำ หลังจากมีคนไปแจ้งท่านว่ามีความคิดเห็นต่าง ด้วยสปิริตของท่าน ท่านได้ออกมาแสดงเจตนาว่า “ไม่มีเจตนาดูหมิ่นหมอลำซิ่ง” ในวันที่ 18 พ.ค.60 เวลา 12.58 น. ในข่าวดังกล่าวพอสรุปได้ว่า มีผู้ตำหนิท่านได้ตอบว่า “ไม่โกรธเคืองใดๆ แม้ถูกดูหมิ่น” “ถือเป็นการแลกเปลี่ยน ความคิดกัน”

3.ในบ่ายวันเดียวกัน วันที่ 18 พ.ค.60 เวลา 15.00 น. โดยประมาณ ข้าพเจ้าได้รับการประสานงานจากสำนักข่าวสำนักหนึ่ง ซึ่งผู้ที่มาขอบันทึกวิดีโอนั้นมีความคุ้นเคยกัน ในหัวข้อ “ความเห็นในมุมมองของข้าพเจ้าต่อหมอลำ” ซึ่งข้าพเจ้าได้เสนอมุมมองเดิมๆ ไป โดยสรุปคือเห็นด้วยทั้ง 3 รูปแบบหมอลำ ต้องมีการพลวัฒตามยุคสมัย ต่อท้ายว่าส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับที่ว่าด้วยการแต่งตัววาบหวิวเกินไป

ข่าวที่ให้สำนักหนึ่งไปนั้น ถูกส่งต่อไปอีกสำนักหนึ่ง โดยข้าพเจ้าไม่ทราบ ไม่ได้รับอนุญาตและถูกนำไปเผยแพร่ตัดต่อเพิ่มเติมโดยสำนักข่าวนั้นๆ กล่าวคือ นำไปเผยแพร่ไม่ครบ อีกทั้งพยายามโยงเรื่องให้เป็นไปอย่างข่าวสารที่เผยแพร่ไปแล้วนั้น ทำให้เกิดกระแสในบุคคลกลุ่มหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามต่างๆ แก่ข้าพเจ้า ซึ่งส่วนนี้ได้มอบให้ทนายความส่วนตัวเก็บข้อมูลไว้บ้าง เหตุที่ข้าพเจ้านิ่งต่อเหตุการณ์ เพราะมีความคิดว่า กรณีเป็นคนละประเด็นกัน เพียงแต่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มพยายามทำให้สิ่งนี้เป็นทางก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้น

4.เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านข่าวบ่ายวันที่ 18 พ.ค.60 ของศิลปินหมอลำที่ออกผ่านสื่อข่าวออนไลน์ ท่านได้ออกมาแสดงเจตนาว่า ไม่ได้ดูหมิ่นหมอลำซิ่ง ประกอบด้วยข้าพเจ้าเห็นเนื้อความตอนท้ายข่าวนั้นว่า “ไม่โกรธเคืองใดๆ แม้จะดูหมิ่น” ข้าพเจ้าจึงย้อนมองว่า เหตุดราม่าเกิดจากข้อความย่อยในเม้นท์ของเม้นท์ย่อยในโพสต์เพลงผู้สาวขาเลาะ ข้าพเจ้าจึงขออภัยในจุดเกิดเหตุดังกล่าว เพราะเหตุเกิด ณ ที่ใดก็ควรจะแสดง ณ ที่นั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่าข้อความนี้ที่ลงท้ายว่า “ขออภัยไว้ตรงนี้” รวมถึงโพสต์วิดีโอข่าวเต็มวันที่ 18 พ.ค.60 ของข้าพเจ้าที่ไม่ได้ตัดต่อ โดยสื่อก็ยังได้ “กราบขออภัย” ไว้ในท้ายโพสต์อีกทาง ข้าพเจ้าเชื่อว่า ข้อความจะทราบถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพราะก่อนหน้านี้ข้อความที่สื่อออกไปผ่านเม้นท์ต่างๆ ที่โดนบันทึกภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ยังสามารถทราบไปถึงทุกท่านทั้งทางตรงและทางอ้อม

5.ดังนั้น ในประเด็นกรณีดราม่าเรื่องดูแคลนดังกล่าวนั้น หากคิดว่าเป็นกรณี ผู้เสียหาย คือ ศิลปินหมอลำ ตามข่าวลงวันที่ 18 พ.ค.60 ท่านระบุในเนื้อข่าวว่า “ไม่โกรธเคืองใดๆ” ผู้ถูกพาดพิงถึง คือ ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ขออภัยในจุดเกิดเหตุแล้ว วันที่ 19 พ.ค.60 ได้ขออภัยไป 2 จุด คือ โพสต์ในคลิปวิดีโอดังกล่าวฉบับเต็ม และโพสต์ในคอมเม้นท์ที่เกิดเหตุดราม่า ซึ่งในทางความหมายระหว่างกรณีก็เป็นการยุติเรื่องราวทุกเรื่อง หากท่านต้องการอีกครั้ง ข้าพเจ้าก็ขออภัยในที่ตรงนี้เป็นครั้งที่ 3 “ขออภัยหากมีสิ่งใดที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ หรือได้รับผลกระทบใดๆ”

6.มีการปลุกปั่นกระแสให้เกิดความเกรียดชังแก่ข้าพเจ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ได้ตอบโต้แต่ประการใด อีกทั้งดูเหมือนมีผู้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อหวังผลความเสียหายให้เกิดแก่ข้าพเจ้าแล้ว และยังเพียรพยายามเชื่อมโยงประเด็นเพื่อทำลายชื่อเสียงแห่งองค์กร โดยการดึงหน้าที่การงานข้าพเจ้ามาพ่วงเพื่อหวังผลทางใดทางหนึ่ง โดยใช้ข่าวดังกล่าวเป็นเครื่องมือ ทั้งที่ความเป้นจริงนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวไม่กับเกี่ยวองค์กร

ท้ายที่สุดนี้ขอฝากข้อความไปถึงบรรดาบุคคลที่นำความหรือภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตไปเผยแพร่ รวมถึงข่าวสารสื่อใดๆ ที่ได้รับการตัดตอนเพิ่มเติม คลาดเคลื่อนจากที่ข้าพเจ้าได้ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ และข้อความตามแถลงการณ์ฉบับนี้ หากก่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน