แก๊งยา ซิ่งฝ่านรก ชนหนุ่มใหญ่ดับแล้วหนี ตร.เจอกัญชา 230 กิโลกรัม ซุกเต็มรถ
แก๊งยา / เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.30 น.ของวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สรศักดิ์ สุโพธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถจักรยายนต์
บนถนนชยางกูรอำนาจเจริญ – มุกดาหาร บริเวณบ้านนาไร่ใหญ่ฝั่งขาเข้าตัวเมืองอำนาจเจริญ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย จึงประสานแพทย์รพ.เสนางคนิคม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนางคนิคม รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือ นายมฌชิมา โคตะวงค์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 ม.15 ต.เสนางคนิคม อ.เสงนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดหลุดหลุ่ย ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยายนต์ฮอนด้า ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน พังยับเยินทั้งคัน
ใกล้กันพบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน 2กน 8127 กรุงเทพฯ บริเวณด้านหน้ารถเก๋งฝั่งคนขับพังยับเยิน แต่ไม่พบคนขับหรือเจ้าของรถคันดังกล่าว คาดว่าจะหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
จากการตรวจสอบภายในรถเก๋งคันดังกล่าว พบกระสอบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ สีดำ พันด้วยเทปกาวใสอย่างมิดชิด จำนวน 2 กระสอบ บริเวณเบาะด้านหลัง และอีกจำนวน 2 กระสอบในกระโปรงด้านท้ายรถ ซึ่งคาดว่าจะเป็นกัญชาอัดแท่ง
เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำส่งไปชันสูตรที่ รพ.เสนางคนิคม และนำรถเก๋งพร้อมกัญชาดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดครั้งที่ สภ.เสนางคนิคม
ร.ต.อ.สรศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นมาอย่างไร หลังจากที่มีเสียงรถชนกันดังสนั่น ชาวบ้านจึงพากันออกมาดู เห็นมีชายนอนกองอยู่บริเวณกลางถนน
ขณะที่คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวหลังจากเกิดอุบัติเหตุก็ได้มีรถเก๋งอีกคันมารับพาหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบห่อที่พบในรถ พบว่าเป็นกัญชาอัดแท่งจำนวน 230 แท่ง น้ำหนักรวม 230 กิโลกรัม คิดเป็นเงินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท จึงยึดเอาไว้ตรวจสอบหาเจ้าของ
เบื้องต้นคาดขบวนการขนกัญชาขับรถเก๋งด้วยความเร็ว ไม่ทันเห็นรถจยย.จนเฉี่ยวชน พอเกิดเหตุอุบัติขึ้นจึงได้ทิ้งรถคันดังกล่าวไว้ และหลบหนีไปกับรถอีกคันที่วิ่งตามหลังมา ซึ่งจะได้ไล่เช็กกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
