วันที่ 23 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้สูญหายภายในคลองชลประทาน ริมถนนสายบ้านแป้ง-ปากกราน หมู่ 2 ต.ช้างน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ นำนักประดาน้ำออกค้นหา

ที่เกิดเหตุเป็นคลองชลประทาน มีความลึกประมาณ 3-4 เมตร ใกล้กับจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างจอดทิ้งไว้ โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่าพบเห็นชายอายุประมาณ 60 ปี มาจอดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างแล้วลงไปวางข่ายดักปลาอยู่ในคลองช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา จนเมื่อช่วงเช้ามาพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยังจอดอยู่ที่เดิม จึงได้แจ้งหน่วยกู้ภัยมาทำการตรวจสอบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ระดมลงงมค้นหาใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด

ขณะที่กำลังค้นหาอยู่นั้น น.ส.สรัลพร กิ่งใหญ่ 35 ปี ได้เดินมาพร้อมกับนายปรีชา กิ่งใหญ่ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นพ่อ พร้อมกับสอบถามว่ากำลังค้นหาเจ้าของรถจักรยานยนต์พ่วงข้างกันอยู่ใช่หรือไม่ คนที่กำลังค้นหาคือพ่อของตนเอง ไม่ได้จมน้ำสูญหายแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่พากันแปลกใจ แต่ก็โล่งใจและเลิกค้นหาทันที

นายปรีชา เล่าให้ฟังว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจากบ้านพักย่านนวนคร จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมาเพื่อมาหาปลาบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ขณะที่กำลังลงข่ายดักปลาเกิดเป็นลมหน้ามืดอยู่กลางคลองได้พยายามตะเกียจตะกายเข้าฝั่ง จนจมน้ำอยู่สองครั้งแต่ก็เอาตัวรอดมาที่ฝั่งได้ แล้วรีบโทรศัพท์ไปหาลูกสาวให้มารับกลับบ้าน รอดตายมาได้หวุดหวิดจนหายดีแล้วได้ให้ลูกสาวพาเอารถจักรยานยนต์และกลัวว่าคนจะตามหากันด้วย ด้านน.ส.สรัลพร กล่าวว่าต้องขอโทษทุกๆ คนด้วยที่ทำให้วุ่นวาย เคยห้ามพ่อแล้วไม่ให้ออกมาหาปลาไกลๆ แต่พ่อชอบหาปลามาก คราวนี้คงต้องห้ามกันเด็ดขาดแล้ว โชคดีที่เอาตัวรอดชีวิตมาได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน