วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าอยากให้ประสานผู้ใจบุญเพื่อทำการช่วยเหลือ ด.ช.ธนากร โหมดอ่อน หรือน้องเอ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3/9 โรงเรียนสิงห์บุรี ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ด.ญ.ชนนเนตร โหมดอ่อน หรือน้องพี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1/3 โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี และ ดช.ปรินทร โหมดอ่อน หรือน้องเก้า อายุ 5 ปี อยู่ชั้นอนุบาล 2/1 โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดย 3 คนพี่น้องต้องอาศัยกันตามลำพังมาเกือบ 2 ปีแล้ว ภายในบ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 1 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เนื่องจากพ่อและแม่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ จ.สิงห์บุรี ในข้อหาจี้ชิงทรัพย์ ทำให้ 3 พี่น้องอยู่กันอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะน้องคนเล็กซึ่งมีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น อาหารหลักของครอบครัวคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ และปลากระป๋อง

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่สอบถามที่โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนของน้องพี และน้องเก้า ได้พบกับครูอรุณี สำราญจริง และครูนันทกานต์ จันทร์หอม ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นของน้องพี ได้เล่าว่า ตั้งแต่ที่พ่อและแม่ของน้องเอ น้องพี และน้องเก้า ถูกตัดสินคดีจนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตอนนั้นน้องเก้ามีอายุเพียง 3 ขวบกว่าเท่านั้น น้องพี ซึ่งเป็นลูกผู้หญิงเพียงคนเดียวและมีอายุเพียง 10 กว่าขวบ ต้องรับภาระคอยดูแลทั้งพี่ชายและน้องชายคนเล็ก ขาดโรงเรียนบ่อยเพราะเวลาน้องเก้าไม่สบาย น้องพีต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในเรื่องของค่าใช้จ่ายทางโรงเรียนได้ช่วยดูแลบ้าง ให้อาหารกลางวันกินฟรี แต่มีปัญหาในเรื่องของค่ารถที่เป็นรถประจำเนื่องจากทางบ้านของเด็กๆ ไม่มีรถโดยสารผ่าน ในตอนนี้ได้ติดค่ารถมา 3 เดือนแล้ว ส่วนเด็กๆ เป็นเด็กดี น้องพีจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในครอบครัว

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่บ้านที่เป็นที่พักของเด็กทั้ง 3 คน พบน้องพี ซึ่งกำลังกวาดบ้าน น้องเอ ผู้เป็นพี่ชายคนโตกำลังซักผ้า และน้องเก้า คนเล็ก กำลังทำการบ้าน ทั้ง 3 คนยังโชคดีที่มีนางสมจิตร วัดเมือง อายุ 54 ปี และ นางมณฑิรา มากพงษ์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นป้าสะใภ้ อยู่บ้านใกล้กันคอยช่วยเหลือบ้าง แต่ด้วยภาระทางบ้านของป้าทั้งสองทั้งยังต้องทำนาเป็นอาชีพหลัก จึงทำให้ไม่สามารถมาคอยดูแลและช่วยเหลืออะไรได้มากนัก

โดยป้าได้เล่าว่า ตั้งแต่พ่อและแม่ของหลานทั้ง 3 โดนตัดสินคดีจำคุกไป ทั้ง 3 ก็ลำบากมากขึ้น ยังได้น้องพี ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการดูแลน้องและไม่เคยทิ้งน้อง คอยทำความสะอาดบ้าน คอยทำกับข้าวให้พี่น้อง ตั้งแต่อายุ 10 ขวบกว่า ส่วนน้องเอ พี่ชายคนโต อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและดูเป็นเด็กเก็บกด อาหารเช้าไม่ได้กิน อายุจะ 15 ปีแล้ว ยังเป็นเด็กผอมตัวแกรนอยู่เลย ส่วนอาหารกลางวันก็ได้กินที่โรงเรียน โดยจะไปเบิกที่ธนาคารโรงเรียนวันละ 20–30 บาท ส่วนมื้อเย็นก็มีอาหารหลักที่กินเป็นประจำคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ ปลากระป๋อง หรือมีญาติๆ นำกับข้าวมาให้บ้าง ส่วนกลางคืนทั้งหมดก็นอนกันเพียงลำพัง 3 คนพี่น้องเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินไปสำรวจบริเวณบ้านพบว่ายังมีพืชผักสวนครัวในพื้นที่ว่างอยู่บ้าง และยังมีไก่ไข่อยู่ 6 ตัว สอบถามทราบว่า น้องเอ จะเป็นคนปลูกพืชผักสวนครัวเหล่านี้ ส่วนไก่ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่ได้กินไข่เนื่องจากไม่มีเงินซื้ออาหารไก่ เลยไปตัดหยวกกล้วยมาสับๆ ให้ไก่กินเป็นอาหารแทนและพื้นที่กรงเล็กและแออัดยังไม่เคยเห็นไก่ออกไข่มา และในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์เด็กๆ อยู่นั้น น้องเอกับน้องพีได้ร่ำไห้ตลอดเวลาเมื่อถูกถามถึงสภาพครอบครัว และความเป็นอยู่

อย่างไรก็ตามล่าสุด ดร.สุเมธี จันทร์หอม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมครูนันทกานต์ จันทร์หอม ได้มอบเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งและสิ่งของจำเป็นแก่เด็กนักเรียน ส่วนผู้ที่ต้องการจะช่วยเหลือเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ครูนันทกานต์ จันทร์หอม ซึ่งเป็นคุณครูที่ดูแลครอบครัวนี้มาตลอด ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-8532704 หรือบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี 0268479880 ธนาคารกสิกรไทย สาขาสิงห์บุรี บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายพรณรงค์ โหมดอ่อน และ ด.ญ.ชนนเนตร โหมดอ่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน