จับหนุ่มทาสยาบี5 เสพจนหลอน ลักจยย. เข็นหนีดื้อๆ สำนึกผิดไหว้ขอโทษเหยื่อ เผยเพิ่งพ้นโทษแต่ไม่มีงานทำ หวนกลับมาลักจยย.รับเสพยาจนหลอน
ลักจยย. / เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ปรเมศว์ เมฆสั้น รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ต.ภราดร เลิศชูล้ำตระกูล สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังจับกุม นายพงษ์ดารา หรือแอ้ม อ่อนนาค อายุ 38 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน 3 กพ 8778 กรุงเทพมหานคร 1 คัน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยจับกุมตัวได้ทันควันหลังผู้ต้องหามีอาการหลอนยากล่อมประสาท แล้วจูงรถของกลางคันดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายจอดไว้บริเวณหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สาขาวัดไทร ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. วนไปวนมาอยู่บนถนนเอกชัย
พ.ต.ต.ภราดร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่ นายชัยรัตน์ ปรีชาบูรณะ อายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบริษัทจอดรถแวะนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่หน้าร้านจุดเกิดเหตุ โดยดึงกุญแจรถออกจากเบ้าแล้ว แต่ไม่ได้ล็อกคอ
จากนั้นเมื่อกำลังจะเดินทางกลับ พบว่ารถของตัวเองหายไป จึงเข้าเเจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน จากนั้นตนจึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ธนาวุฒิ อินตา และ ร.ต.อ.ยศกร สัตถาวะโห รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละเเวกที่เกิดเหตุ พบภาพคนร้ายรายนี้ จูงรถของกลางคันดังกล่าวไปมาบนถนนเอกชัย ในลักษณะคล้ายคนมีอาการหลอนยา จึงติดตามไปรวบตัวไว้ได้ขณะนั่งคร่อมรถของผู้เสียหาย พูดจาคนเดียวในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้ซอยเอกชัย 11 ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร
จากนั้นเมื่อชุดจับกุมคุมตัว นายพงษ์ดารา มาสงบสติอารมณ์ที่โรงพักใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าเจ้าตัวจะยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับกุมตัวข้อหายาเสพติดและข้อหาปล้นทรัพย์ ติดคุกนาน 5 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้ว แต่ตนก็ไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่งใครว่าจ้างทำอะไรก็ทำทุกอย่าง
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ไปขอยาบี 5 ซึ่งเป็นยาระงับอาการทางประสาทจากเพื่อนรุ่นน้องที่มีอาการป่วยทางจิตกินไป 3 เม็ด จนตัวเองหลอนไม่รู้สึกตัว เดินเท้าออกจากห้องพักย่านบางค้อ จอมทอง มาก่อเหตุโดยไร้สติสัมปชัญญะ ซึ่งหลังก่อเหตุตนกราบขอโทษผู้เสียหายไปแล้วและยืนยันหากพ้นโทษออกมาคราวนี้จะไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและยากล่อมประสาทชนิดใดอีก
ด้าน นายชัยรัตน์ ปรีชาบูรณะ อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนยกโทษและอโหสิกรรมให้ นายพงษ์ดารา เพราะรู้สึกสงสาร แต่ทางชุดจับกุมแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร นำส่งพนักงานสอบสวน ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย
อย่างไรก็ตามครั้งนี้ตนก็สะเพร่าเกินไป แม้จะจอดรถดึงกุญแจออกมาแล้วแต่ลืมล็อกคอ ทำให้นายพงษ์ดารา มาเข็นรถออกไปจากจุดจอดได้ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถทุกคน พึงระวังอย่าให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพด้วยการจอดรถแล้วล็อกคอให้เรียบร้อย แม้จะจอดริมถนนตอนกลางวันแสกๆ ก็ตาม
