เมียช็อกผัวหายตัวไป 4 วัน พบ หนุ่มอบต. กลายเป็นศพ ตายขึ้นอืดกลางป่า คาดเข้าไปล่าไก่ป่า อาจถูกคนที่มาล่าสัตว์ เข้าใจผิดนึกว่าเป็นสัตว์จึงยิงใส่เสียชีวิต
หนุ่มอบต. / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.พ. รตอ.สุวรรณ เจริญสุข พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งมีผู้พบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าลึกใกล้แนวเขตแดนไทย-เมียนมา เขตพื้นที่บ้านไม้สะเป่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปสอบสวนร่วมกับแพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย จ.แม่ฮ่องสอน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยในการเดินทางไปชันสูตรพลิคศพเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าจากบ้านไม้สะเป่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดน เข้าไปในป่าลึกอีกประมาณ 5 กิโลเมตร พบศพชายสวมกางเกงลายพรางทหาร เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีน้ำเงิน เสียชีวิตในลักษณะนอนหงาย สภาพศพขึ้นอืด ใบหน้าเน่าเปื่อยแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ข้างศพพบอาวุธปืนลูกกรด 1 กระบอกและเป้สนามตกอยู่ 1 ใบ ทางญาติผู้ตายยืนยันศพดังกล่าวคือ นายวุฒิกร รักไพร อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.ไม้สะเป่ ที่หายตัวไป
ตรวจสอบตามร่างกาย มีร่อยถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัด และท้ายทอยอีก 1 นัด ที่เกิดเหตุไม่พบมีร่องรอยการต่อสู้ ห่างจากศพออกไปประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางพัชรา รักไพร อายุ 41 ปี ชาวบ้านไม้สะเป่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายให้การว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา นายวุฒิกรออกจากบ้านไปต่อไก่ป่า ในป่าลำห้วยบุกใกล้แนวชายแดนตามลำพัง ซึ่งปกติจะนอนค้างคืนเพียง 1 หรือ 2 วันเท่านั้น แต่คราวนี้ผิดสังเกตหายไปนานถึง 4 คืน 5 วัน จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและพาญาติออกตามหาจนพบศพสามีนอนขึ้นอืด เสียชีวิตอยู่ในป่าลึก ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการชันสูตรพลิกศพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะที่นายวุฒิกรผู้ตายกำลังต่อไก่ป่าอยู่นั้น อาจถูกคนอีกฝ่ายที่มาต่อไก่ป่าหรือล่าสัตว์เหมือนกัน เข้าใจผิดนึกว่าเป็นสัตว์จึงยิงเข้าใส่ จนเสียชีวิต เนื่องจากบริเวณป่าดังกล่าวมักมีคนจากหลายหมู่บ้านมาต่อไก่หรือล่าสัตว์อยู่เป็นประจำ
นอกจากนี้ จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับบุคคลใดมาก่อน จึงเชื่อว่าการถูกยิงเสียชีวิตในครั้งนี้น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ มากกว่าการถูกฆาตรกรรม โดยเจ้าหน้าที่จะได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อขยายแนวทางการสืบสวนหาผู้ตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
