สั่งรื้อแล้ว! บ้านหรูเสี่ยนมข้น รุกป่าอุทยาน ภายใน 30 วัน ฝ่าฝืนเจอคุก 3 ปี กรมอุทยานฯปิดประกาศให้รื้อบ้านพักตากอากาศบนยอดเขา รุกที่อุทยานฯเอราวัณ

บ้านหรูเสี่ยนมข้น / เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ก.พ. นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า สั่งการให้ นายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติพุเตย

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

รวมทั้งชุดพญาเสือ และคณะเจ้าหน้าที่ จำนวน 20 นาย มาติดประกาศคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บริเวณด้านหน้าบ้านพักตากอากาศหรูบนยอดเขา ของอดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท นมชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสินหรือสิ่งอื่นใดไปให้พ้นจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันติดประกาศรื้อถอนนี้

สืบเนื่องมาจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณดำเนินการ ตรวจยึดบ้านพักตากอากาศหรู บนยอดเขา จำนวน 3 หลัง เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 58 ตาราวา และแจ้งความดำเนินคดีกับอดีต กรรมการผู้จัดการ บริษัทนมข้นหวานชื่อดัง เจ้าของบ้าน นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2557 ตามปจว.ข้อที่ 5 คดีอาญาที่ 105/2557 ยึดทรัพย์ที่/65 2557

ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าของตามคดีหมายเลขดำที่ อ.2501/2562 สำหรับคดีปกครอง ศาลปกครองกลาง ได้คำพิพากษาคดี หมายเลขดำที่ ส.4/2558 คดีหมายเลขแดงที่ส.65/2561 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 โดยยกฟ้องคำฟ้องที่ฟ้องอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และให้ดำเนินการรื้อถอนบ้านพักตากอากาศไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางดังกล่าว ถือว่าคดีนี้เป็นอันถึงที่สุด

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงอาศัยอำนาจ มาตรา 35 (2) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ประกาศคำสั่งให้รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูบนยอดเขา จำนวน 3 หลัง สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดไปให้พ้น จากอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศคำสั่งนี้

เมื่อครบกำหนดเวลาตามประกาศคำสั่งแล้ว หากยังดื้อเพ่งไม่รื้อถอน จะถูกดำเนินคดีฐาน ฝ่าฝืนประกาศคำสั่งนี้ ระวังโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องระวางโทษปรับรายวันอีกวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะได้มีรื้อถอนเสร็จ และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนให้กับทางราชการ จำนวน 401,607บาท และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 25 ต่อปี อีกด้วย

ด้านนายปรยุษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีการบุกรุกพื้นที่ป่าของ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว มีทั้งหมด 3 คดีคือ 1.คดีอาญา ซึ่งเดิมที ทางกรมอุทยานฯได้ฟ้องร้องในคดีอาญาด้วย แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ด้วยเหตุผลว่า ผู้ต้องหาขาดเจตนา แต่ทางผู้อำนวยการสบอ.3(บ้านโป่ง) ได้ส่งเรื่องนี้ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เห็นแย้งว่าเรื่องนี้ไม่สั่งฟ้องไม่ได้ จึงส่งสำนวนต่อไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นให้สั่งฟ้อง ซึ่งศาลจะพิจารณาคดีนี้นัดแรกในวันที่ 3 มีนาคม 2563 นี้

2.คดีทางปกครอง สืบเนื่องจากตอนแรกที่อัยการไม่ฟ้องแต่เนื่องจากพื้นที่บ้านพักอยู่ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานสามารถเข้าไปรื้อถอนได้ นอกจากนี้ อุทยานยังได้ฟ้องศาลปกครองให้รื้อถอนทรัพย์สินทั้งหมดออกจากพื้นที่อุทยาน

และ 3.คดีทางแพ่ง อุทยานฯฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 85,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 65,000 บาท แต่เจ้าของยื่นอุทธรณ์คดีจึงอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์เวลานี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน