จากกรณีนายคำรณ พ้นภัย อายุ 54 ปี หรือผู้ใหญ่ยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกยิงเสียชีวิตคารถยนต์เก๋งโตโยต้าคัมรี่ สีเทา ทะเบียน กบ 6050 ชลบุรี บริเวณใต้ต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้าเมืองนครปฐม หมู่ 2 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าคดีนี้เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 จ.นครปฐม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินศร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม และสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกฤษดา ศรีเปรม อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางแขม อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 1 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม อาชีพเลี้ยงวัวและปล่อยเงินกู้ พร้อมของกลางรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ณ-1490 กทม. หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายคำรณ พ้นภัย อายุ 54 ปี หรือผู้ใหญ่ยุทธ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายกฤษดา รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านไปรับลูกชาย 2 คนที่โรงเรียนแล้วจะพากลับบ้าน ระหว่างทางเจอรถผู้ใหญ่ยุทธจอดอยู่ริมถนนเนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นลูกน้องคนสนิท จึงจอดประกบข้างแล้วเดินลงไปพูดคุยเคลียร์ปัญหา
แต่ไม่สามารถเคลียร์กันได้แล้วตนเห็นผู้ใหญ่เอี๊ยวตัวจึงคิดว่าจะชักปืนออกมายิง จึงชักปืนยิงใส่ก่อนโดยรัวไป 5 นัดซ้อน แล้วขับรถพาลูกกลับบ้านเก็บเสื้อผ้าขับออกจากบ้านทันที ส่วนปืนโยนทิ้งระหว่างทางที่ทำไปเพราะตนเป็นลูกผู้ชาย ปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง ขอสาบานต่อหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ว่า เรื่องนี้คนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า นายกฤษฎา ให้การรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนยิงนายคำรณ เนื่องจากแค้นที่ถูกนายคำรณหยามศักดิ์ศรีในเรื่องส่วนตัว วันเกิดเหตุนายกฤษฏา อ้างว่าไปรับลูกกลับจากโรงเรียน และขับรถกำลังกลับบ้านเห็นรถนายคำรณจอดอยู่ จึงขับรถเข้ามาจอดประกบข้างด้านขวาแล้วลดกระจกข้างด้านซ้ายที่มีลูกนั่งอยู่ ขณะนั้นนายคำรณลดกระจกลงเช่นกันจึงใช้ปืนยิงกระหน่ำลงไป 1 ชุด แล้วลงจากรถไปกระหน่ำยิงซ้ำอีกจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วถึงหลบหนี
จากนั้นพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ นำกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายกฤษดา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีญาติพี่น้องผู้ใหญ่ยุทธและชาวบ้านจำนวนมากมาดูการทำแผนครั้งนี้ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสวมชุดเกราะพร้อมใส่หมวกเพื่อป้องกันความปลอดภัย โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนต่อแล้วแจ้งข้อหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
