วันที่ 25 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางกรรณิการ์ แสนสระน้อย ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนวงวัวดำ หมู่ 16 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่าอยากประสานถึงผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้เรื่องการกำจัดแมลงปีกแข็ง หรือ แมลงกระเบื้อง ที่มาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ต้องทนทุกข์กับแมลงปีกแข็งนับล้านตัว ที่ในแต่ละปีที่จะเข้าหน้าฝนช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน จะต้องอพยพมายึดบ้านเป็นประจำทุกปีและติดต่อกันมาเป็นเวลานานถึง 11 ปีแล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 16 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พบกับนางเชื้อ เจริญวงษา อายุ 75 ปี และนายสมจิตร เจริญวงษา อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย กำลังช่วยกันปัดกวดแมลงปีกแข็งที่อยู่ภายในบ้านเพื่อใส่บรรจุไว้ในถุงปุ๋ย โดยแมลงปีกแข็งจำนวนนับล้านตัว ที่บินมาอาศัยเกาะตามหลังคา ข้างฝาบ้าน และพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในบ้าน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่อาศัย ทำให้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ซึ่งเมื่อกลางปี 2559 ได้ประกาศยกบ้านให้กับแมลงกระเบื้องไป และได้ไปปลูกบ้านขึ้นใหม่อีกหลังเพื่ออยู่แทน ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เข้ามาช่วยหาวิธีกำจัด จนหมดฝนแมลงปีกแข็งทั้งหมดก็หายไปจนมาสามารถกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ดังเดิม จนมาเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนหรือเข้าสู่ช่วงหน้าฝน แมลงปีกแข็งก็บินกลับมายึดบ้านอีก และเริ่มเยอะขึ้นเลื่อยๆ จนมาเมื่อสามวันก่อนแมลงปีกแข็งมีอยู่หนาแน่นบินเกาะในทุกส่วนของบ้านและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั้งบ้านโดยเฉพาะเวลากลางคืนมันจะออกมาเล่นไฟหรือแสงไฟภายในบ้าน

จากการสอบถามนายสมจิตร เจริญวงษา ลูกชายของนางเชื้อ เล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้แม่และน้องชายต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะแมลงปีกแข็งที่อพยพมาอยู่ตั้งแต่เข้าช่วงฤดูฝน จากจำนวนน้อยจนเริ่มมาอยู่เต็มบ้าน เกาะตามส่วนต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า ห้องนอน มุ้ง ห้องครัว และห้องน้ำ รวมไปถึงบริเวณรอบๆบ้าน จากเมื่อ 11 ปีก่อน บ้านหลังนี้ไม่เคยมีแมลงกระเบื้องมาอาศัยแต่อย่างใด และก็ไม่มีความผิดปกติใดๆ ของตัวบ้าน ซึ่งบ้านก็ปลูกเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ จนเมื่อปี 2547 เป็นช่วงที่ฝนตกหนัก มีแมลงลักษณะดำและเล็ก บินมาเป็นฝูงนับล้านตัว มาเกาะตามมุมต่างๆ ของบ้าน และก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ช่วง 2-3 ปีแรก ก็ยังพอที่จะกำจัดและพอพักอาศัยได้ แต่เจ้าแมลงกระเบื้องก็ไม่ลดน้อยลงเลย ยิ่งมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตนเองและน้องๆ ต้องไปปลูกบ้านพักอาศัยที่อื่น พร้อมทั้งนำแม่ไปพักอาศัยด้วย ส่วนนายขจรน้องชายเลือกที่จะอยู่ที่บ้านหลังนี้เพราะเป็นห่วงบ้าน โดยเมื่อแมลงกระเบื้องมันบินออกมาเล่นไฟช่วงกลางคืนมันจะส่งกลิ่นเหม็นกลับไปทั่วบ้าน ทำให้แม่และน้องชายทนไม่ไหวต้องไปขออาศัยอยู่ที่บ้านชั่วคราว แต่น้องชายซึ่งพิการด้านขา ห่วงบ้านบางวันต้องกลับมานอนที่บ้าน โดยใช้มุ้งครอบและต้องนอนด้วยความระมัดระวังว่าเจ้าแมลงปีกแข็งจะไต่เข้าหูหรือมาไต่ตามลำตัว เบื้องต้นก็ได้ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นตามที่ทางเทศบาลได้แนะนำไว้ แต่ก็ไม่ได้ผลทำได้เพียงให้แมลงสลบเท่านั้นพอหมดฤทธิ์ยาแมลงก็จะตื่นเหมือนเดิม จึงอยากจะวอนให้หน่วยงานที่มีความรู้เข้ามาช่วยกำจัดอย่างถูกต้องและสามารถจำจัดได้สำเร็จ เพราะแมลงปีกแข็งหรือแมลงกระเบื้องนับล้านตัวนี้ จะบินมาอยู่ทุกปีทำให้ต้องทนทุกข์มากว่า 11 ปี และยังไม่สามารถหาวิธีกำจัดได้แต่อย่างไร

ขณะที่นางกรรณิการ์ แสนสระน้อย ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข กล่าวว่า ทุกวันนี้ ได้แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่ อสม.ประจำหมู่บ้าน ที่มาคอยฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดเท่านั้น ทั้งนี้ก็มีขอบเขตที่จำกัดเนื่องจากมีเจ้าหน้าที อาสาสมัครไม่กี่คน งบประมาณก็ไม่มี ได้แต่รับยาฆ่าแมลงมาจาก เทศบาลตำบลเท่านั้น ทาง ตนและสมาชิก อสม.ได้นำยาฆ่าแมลงมาฉีดทุกวันจนทำให้ได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลง และยังส่งผลไปถึงคนภายในบ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย มาจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีความรู้โดยตรงและมีวิธีการกำจัดแมลงกระเบื้องเข้ามาดูแลชาวบ้านดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน