เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจากชาวบ้านโสน ม.13 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่ากำลังได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก ทั้งจากกลิ่นเน่าเหม็นและกลิ่นควันไฟจากกองขยะจำนวนมาก ที่มือมืดพากันแอบลักลอบขนใส่รถยนต์มาทิ้งไว้ บริเวณริมสองข้างทางรถไฟ ปากทางเข้าหมู่บ้านโสน ปิดขวางทางเข้าออกนาข้าวของชาวบ้าน จนไม่สามารถเดินทางเข้าออกอย่างปกติได้ ต้องอ้อมเข้าอีกทางเป็นระยะทางกว่า 4 ก.ม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบกองขยะมหึมาทิ้งเต็มสองข้างทาง บางส่วนถูกน้ำพัดพาลงไปเต็มคลองส่งน้ำข้างทางรถไฟ และนาข้าวของชาวบ้าน อีกทั้งกองขยะกองยักษ์ยังปิดกั้นขวางทางเข้าออกนาข้าวหลายสิบไร่ของชาวบ้าน โดยมีชาวบ้านถึงกับคุกเข่าไหว้กองขยะ เพื่อวิงวอนผ่านสื่อไปถึงอบต.นอกเมือง เพื่อแก้ปัญหานี้
ต่อมานายสุพจน์ ประเทืองเศรษฐ์ นายกอบต.นอกเมือง พร้อมด้วยนายอนุชา พิศมัย ปลัดอบต.นอกเมือง และเจ้าหน้าที่กองสาธารณะสุข อบต.นอกเมือง เดินทางมาที่กองขยะดังกล่าว ก่อนสำรวจพื้นที่กองขยะที่ถูกนำมาทิ้งไว้
นางน้อย บุญมา อายุ 60 ปี ชาวบ้านโสน กล่าวว่า เห็นรถยนต์นำขยะมาเททิ้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน บางวันเทขยะกีดขวางอยู่แบบนี้ ชาวบ้านเดือนร้อนมากจะออกไปนาไปไร่ก็ไม่ได้ ตนจะไปนาก็ไปไม่ได้ กองขยะส่งกลิ่นเหม็นมาก ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ส่วนคนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ อยู่บ้านไม่ได้ต้องพากันปิดบ้านหนี เวลาจะเดินทางไปนาก็ต้องอ้อมไปไกล จึงวิงวอนถึงหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบให้มาช่วยแก้ปัญหา เพราะใกล้ฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว รถจะเข้าไปไม่ได้
นายอนุชา กล่าวว่า อบต.นอกเมือง ได้รับการประสานเป็นหนังสือจากนายชัชวาลย์ ปานเพชร ผู้ใหญ่บ้านโสน ว่ามีชาวบ้านเดือนร้อน ทางอบต.นอกเมือง รับทราบปัญหาแล้วจะจัดการกับกองขยะนี้ และจะนำท่อปูนในหมู่บ้านมาวางกั้นไว้ไม่ให้รถใหญ่เข้า ให้เข้าเฉพาะรถจักรยานยนต์วิ่งไปไร่ไปนาได้เท่านั้น แต่พอถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็ปล่อยให้รถใหญ่เข้าออกได้ เพื่อเข้าไปเก็บเกี่ยวข้าว
