สามีปัดเอี่ยวฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” เผยยังรักทั้งที่รู้ว่าภรรยาชอบทอม แต่ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ เดินหน้าทำงานเก็บเงินสร้างครอบครัว เผย 2 เดือนก่อนนี้ถูกทอมอีกคนทำร้ายที่ชัยนาท ก่อนตาย “น้องแอ๋ม” ยังอ้อน จากนั้นติดต่อไม่ได้เลย ขณะที่ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางผู้ตาย เผยสอบปากคำแล้วทุกฝ่ายยังคงไม่พบปมพิรุธ

 

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 26 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กก.3 บก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ยังคงทำการสอบปากคำนายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี สามีของ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม พนักงานร้านคาราโอเกะ สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น หลังถูกพบกลายเป็นศพเสียชีวิตถูกหั่น 2 ท่อน บรรจุไว้ในถุงพลาสติกสีดำ ก่อนยัดใส่ไว้ในถังพลาสติกอีกชั้น ถูกทิ้งไว้ที่ป่าสาธารณะข้างทาง พื้นที่ บ.โนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น โดยทำการสอบปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้นายศักดิ์ชัย ออกมาพักผ่อนและรับประทานอาหาร

 


นายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี สามีของน้องแอ๋ม เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้คบหาดูใจกับน้องแอ๋ม เมื่อเดือน พ.ย.ของปีที่ผ่านมาก่อนที่จะแต่งงานกันในเดือน ก.พ.2560 โดยรู้มาตลอดว่าน้องแอ๋มนั้นเป็นคนที่ชอบคบหากับทอมและพูดคุยกับทอมหลายคนตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่เพราะรักและไม่คิดอะไร ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ จึงไม่คิดและแต่งงานกันด้วยความรักของทั้ง 2 คน แต่ด้วยที่ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเพื่อสร้างครอบครัว จึงต่างคนต่างทำงานกัน ครั้งสุดท้ายที่พบกับภรรยาคือวันที่ 5 พ.ค.ซึ่งผู้ตายได้เดินทางกลับมาจากชัยนาท เพื่อมาพักผ่อนด้วยกันที่กรุงเทพฯ ตนเองก็ไปรับ วันนั้นจำได้ว่ามีปากเสียงกันเพราะภรรยาขอไปหางานทำที่ขอนแก่น จึงห้ามไม่ให้เดินทางไปอีกเพราะกลัวจะมีปัญหาเรื่องคบหากับทอม ภรรยาจึงไม่พอใจไปขอพักกับบ้านพ่อ ซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกันที่กรุงเทพฯ และวันที่ 6 พ.ค.ผู้ตายก็เดินทางมาที่ขอนแก่น จากนั้นก็ไม่พบหน้ากันอีกเลย แต่ก็ติดต่อกันโดยตลอดทั้งทางโทรศัพท์และทางเฟซบุ๊ก ครั้งล่าสุดที่คุยกันคือวันที่ 22 พ.ค.เวลา 23.47 น. ซึ่งได้ติดต่อไปทางเฟชและได้โทรศัพท์คุยกัน ซึ่งน้องแอ๋มก็ยังคงอ้อนกันตามปกติ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานก็ได้หลับไปจากนั้นก็พยายามติดต่อภรรยาอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ค.ก็ไม่สามารถติดต่อได้ มาทราบข่าวอีกครั้งเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมาว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

น้องแอ๋ม

“ก่อนที่จะได้คุยกับแฟนสาวทางโทรศัพท์ในคืนวันที่ 22 พ.ค.นั้นพบว่าผู้ตายกำลังติดสายโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งโดยคุยกันนานกว่า 10 นาที แต่ด้วยความพยายามที่จะไม่คิดมาก และรักในความเป็นน้องแอ๋มจึงไม่คิดอะไรมาก จนกระทั่งมาทราบอีกครั้งว่าภรรยาผมนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยผมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของภรรยา และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแบบตรงไปตรงมาเพื่อจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งในการสอบปากคำและให้การกับทางเจ้าหน้าที่ผมตอบแล้วในทุกคำถาม และมีเอกสารหลักฐานต่างๆยืนยันโดยตลอด ซึ่งผมได้นำมาชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่โดยทั้งหมด แม้ขณะนี้ตำรวจจะยังคงไม่ปล่อยตัวผมแต่หากปล่อยตัวแล้วก็จะเดินทางไปร่มงานศพของภรรยาที่บ้านเกิดที่ชัยนาททันที”

 

นายศักดิ์ชัย กล่าวต่ออีกว่า ตนไม่มุ่งเป้าหรือคิดว่าใครคนเป็นคนลงมือก่อเหตุ เพราะตนคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้จริงๆ ป๊อปปี้ คือทอมสาวที่มาติดพันและตนเองก็ทราบว่าภรรยานั้นคุยอยู่กับเพื่อนสาวคนนี้อยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย.นั้นมีทอมสาวชื่อ เอ (นามสมมติ) ซึ่งอยู่ที่ จ.ชัยนาท อ้างว่าได้มาติดพันกับภรรยา และได้มีการทำร้ายร่างกายภรรยาจนได้รับบาดเจ็บอากาสาหัส ซึ่งน้องแอ๋ม เข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.หลายวัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ได้มีการแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.มโนรมย์ ซึ่งตนเองก็ไม่ปักใจว่าใครลงมือก่อเหตุจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่ก่อเหตุที่แท้จริงนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

 


พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง กล่าวว่า ขณะนี้การสอบปากคำเสร็จสิ้นไปแล้ว 7 ปาก โดยเฉพาะทอมสาว ที่ชื่อ ป๊อปปี้ และ สามีของผู้ตาย ไม่พบปมพิรุธแต่อย่างใด ทำให้การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ได้แกะรอยตามเส้นทางของผู้ตาย ตั้งแต่ภาพวงจรปิดที่พบที่ติดตั้งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ริม ถ.เหล่านาดี เขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ยังคงเห็นผู้ตายยืนคุยโทรศัพท์อยู่จากนั้นก็ไม่มีพบตัวอีกเลย แต่ชุดสืบสวนก็ยังคงแกะรอยต่อไปจนพบรถต้องสงสัย ที่คาดว่าจะรับตัวน้องแอ๋มไป อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำสามีผู้ตาย นานกว่า 8 ชั่วโมง ได้ปล่อยตัวไปแล้ว ซึ่งสามีจะเดินทางไปร่วมศพของผู้ตาย ที่ จ.ชัยนาท ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน