ชาวบ้านสุดทน! พระกลับจากบิณฑบาต นั่งดื่มเหล้ายันค่ำ เผยอดอยาก ปลอมตัวขอข้าวกิน
วันที่ 9 มี.ค. นายศักดิ์ชาย เสตานุช ผู้ใหญ่บ้าน หมู่1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนราชมนู ต.ทะเลชุบศร ว่ามีพระภิกษุ 1 รูป กลับมาจากบิณฑบาต แล้วไม่เข้าวัด ถอดจีวรนั่งกินเหล้าอยู่ข้างทางเปลี่ยวลับตาคน จึงรายงาน นายวันชัย ศรีชมพู ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี หน.ฝ่ายความมั่นคง และสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรีทราบ พร้อมนำตัวพระภิกษุรูปดังกล่าวมาที่วัดตองปุ ต.ทะเลชุบศร เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่ได้ทำการสอบสวน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยพระรูปดังกล่าวแต่งกายชุดพลเรือน พูดจาวกวน คล้ายคนเมา มีถุงปุ๋ยสีขาววางอยู่ เปิดดูพบมีผ้าจีวร ผ้าสบง ผ้าประคตรัดเอว บาตรพระ และอาหารคาวหวาน ขนม นมเนย อัดแน่นยัดไว้ในถุงปุ๋ยอยู่ เมื่อเปิดในบาตรพบว่ามีขวดเหล้าขาว 35 ดีกรี เปิดดื่มไปบ้างแล้วแล้วซุกซ่อนอยู่
จึงทำการสอบสวนพร้อมทั้งขอดูบัตรประจำตัวพระ หรือหนังสือสุทธิบัตร กลับทำท่าอึกอัก และยอมรับสารภาพในเวลาต่อมาว่าตนไม่ได้เป็นพระ เพียงแต่แต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ เพื่อออกบิณฑบาตขอข้าว ขอน้ำ ขอเงินกับชาวบ้านที่ใส่บาตรในเวลาเช้าเท่านั้น
โดยชาวบ้านหลายคนยืนยันว่า เห็นพระรูปนี้นานกว่า 1 เดือน ซึ่งคิดว่าเมื่อเสร็จจากบิณฑบาตแล้วจะกลับวัด โดยไม่มีใครสงสัยว่ามาแอบซ่อนตัว ถอดจีวร เปลี่ยนชุดพลเรือน แล้วเดินไปซื้อเหล้านั่งมากินจนเมา เมื่อช่วงเช้ามีชาวบ้านถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แล้วมาแจ้งกับ ผญบ.ดังกล่าว
จากการตรวจสอบทราบว่าชื่อ นายคำ ขะวงษ์ อายุ 62 ปี ชาวต.นิคมลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน จึงยอมรับสารภาพว่าไม่ได้เป็นพระ แต่เคยบวชพระ แอบแต่งกายเลียนแบบพระ เพราะว่าไม่มีข้าวกิน อดอยาก เห็นว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการเป็นพระ
จึงได้ไปหาซื้อเครื่องแต่งกายพระและบาตร ออกเดินบิณฑบาต รอบเมืองลพบุรี ซึ่งชาวบ้านที่หลงเชื่อ จะถวายทั้งอาหารคาวหวาน และเงินสดทุกวัน เมื่อกลับจากบิณฑบาตก็จะรีบมาถอดจีวรในที่ลับตาคนออก กินข้าวกินปลาจนอิ่ม ก็จะออกไปหาซื้อเหล้ามานั่งดื่มกินยันค่ำ
ทั้งนี้ นายวันชัย ศรีชมพู ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี หน.ฝ่ายความมั่นคง ได้มอบตัวนายคำ ขะวงษ์ ให้กับสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี นำไปสอบสวน ขยายผลว่ายังมีผู้ที่เกี่ยวข้องหรือใครอีกหรือไม่ที่เข้ามาทำพฤติกรรมเช่นนี้ภายในจังหวัดลพบุรี
ก่อนที่จะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระ หรือตามข้อกฎหมายระบุว่า “ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใด โดยมิชอบเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
